วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

small oasis



วันพฤหัสฯที่แสนเศร้า
วันที่ 15 กรกฎาคม 2553 ที่ร้านเฮียบุกคาเฟ่ นางแล เชียงราย

ถึงคุณพ่อขายาวที่รัก

เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ท่านคงจะได้รับทราบข่าวเกี่ยวกับการทำลายสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติครั้งใหญ่ เมื่อแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทบริติช ปิโตรเลี่ยม(British Petroleum) เกิดระเบิดขึ้นที่อ่าวแม๊กซิโก

ท่านคะ ... แม้ว่าจังหวัดเล็กๆที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทยอย่างเชียงราย จะอยู่ห่างไกลจากอ่าวแม๊กซิโกถึงเกือบๆสองหมื่นกิโลเมตร แต่ปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ได้อยู่ไกลไปจากตัวเราทุกคนเลยใช่ไหมคะ? ดูเหมือนว่ามนุษย์จะรีบเร่งกำจัดความเป็นธรรมชาติให้หมดสิ้นไป คงเหลือไว้แต่ “ความเจริญ” ในนิยามที่มนุษย์สร้างกันขึ้นมาเอง

ที่เชียงราย เคยมีห้างสรรพสินค้าชื่อว่า “ห้างอภินิเวศ” ตั้งอยู่บนถนนสนามบิน หลายปีก่อนห้างสรรสินค้าแห่งนี้เกิดอัคคีภัยเผาห้างเสียวอดวาย พื้นที่ตรงบริเวณนั้นถูกปล่อยทิ้งเอาไว้รกร้าง แต่ทุกครั้งที่ดิฉันผ่านไปบริเวณนั้น ดิฉันรู้สึกได้ถึงพลังของธรรมชาติ พืชพันธุ์นานาชนิดขึ้นปกคลุมหนาแน่นเต็มบริเวณ บนพื้นซีเมนต์ที่ทั้งแห้งและว่างเปล่า กลายเป็นระบบนิเวศน์เล็กๆสีเขียว ที่มีนก และ แมลง มากมายมาอาศัยอยู่ ดิฉันคิดเอาเองว่า “อภินิเวศน์” ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งแล้วละคะ

ท่านเชื่อในพลังของธรรมชาติไหมคะ?

ดิฉันชอบการเดินเล่น ไม่ว่าจะเป็นการเดินในป่าหรือเดินเล่นในตัวเมืองอย่างเชียงราย ดิฉันชอบสังเกต ต้นพืชเล็กๆที่งอกงามขึ้นตามรอยแตกของพื้นถนน ดิฉันเรียกว่า “โอเอซีสเล็กๆ” เพราะสภาพแวดล้อมไม่ได้เอื้อต่อการงอกงามของพืชเลย พื้นปูนที่ร้อนด้วยไอแดดเผา ควันเสียจากรถยนต์ เพียงความชื้นและเศษดินเล็กๆ เมล็ดก็งอกงามได้ ประเทศไทยของเรามหัศจรรย์และอุดมสมบูรณ์จริงๆนะคะ

ดิฉันลองจินตนาการว่า ถ้าเราไม่เข้าไปในป่าไม่ไปรบกวนป่า ป่าก็ขยายพันธุ์ได้เอง ไม่ต้องมีใครไปปลูก เพียงแค่เรารักษาอย่าไปตัดถางทำลาย นั้นก็เท่ากับว่าเราได้ช่วยกันปลูกป่าแล้วละคะ ป่าสงวนหรืออุทยานแห่งชาติที่เรามีอยู่คงยังไม่พอ พื้นที่ป่าในประเทศไทยเหลือเพียงไม่ถึง 25% ของพื้นที่ทั้งหมด ดิฉันอยากจะให้เป็นป่าศักดิ์สิทธิ์ซัก 10% (ป่าศักดิ์สิทธิ์คือป่าที่ไม่อนุญาติให้มนุษย์หน้าไหนเข้าไปโดยเด็ดขาด) ดิฉันคงจะฝันสติเฟื่องไปแล้วใช่ไหมคะท่าน...ที่หวังว่าจะมีป่าแบบนั้น

ดิฉันแค่ขี้เกียจต้องหิ้วถุงผ้า ... ท่านคิดดูซิคะว่าต้องหิ้วถุงผ้ากี่หมื่นถุง เพื่อแลกกับต้นยางนาที่ถูกตัดโค่นไปเพียงหนึ่งต้น

สัปดาห์ก่อนดิฉันได้ไปถ่ายรูปภูเขาหัวโล้นในเขต ตำบลแม่ข้าวต้ม ไปจนถึง เขตอำเภอดอยหลวง มีการทำสวนยางพาราและไร่ข้าวโพดกันมาก ถางป่าเหี้ยนเตียนเป็นลูกๆ เห็นแล้วไม่น่าแแปลกใจเรื่องวิกฤติสภาพอากาศในเชียงราย(และที่อื่นๆ) ดิฉันไม่ทราบหรอกว่า ป่าสมบูรณ์ที่มีความหลากหลายขนาดพื้นที่ 1 ไร่ เมื่อเทียบมูลค่าทางเศรษฐกิจกับไร่ข้าวโพดจีเอ็มโอแล้ว อะไรจะคุ้มกว่ากัน

ท่านอย่าคิดว่าดิฉันเป็นคนแดกดัน ถ้าท่านได้มาเห็นความจริงที่นี่ มันเป็นเรื่องแดกดันกันจริงๆ ดิฉันหัวเราไม่ออกหรอกคะ มันจุกในลำคอ อยากอาเจียนเสียมากกว่า

ที่ดินส่วนมากเป็นของนายทุน ชาวบ้านถางแล้วขาย นายทุนปลูกยาง จ้างชาวบ้านดูแล ไม่มีหรอกคะ “ความพอเพียง” แบบที่สื่อของรัฐคอยโฆษณาชวนเชื่อ ชาวบ้านไม่ได้ซื่ออย่างนั้น ใครๆก็อยากขี่มอเตอร์ไซค์ อยากขับรถกระบะกันทั้งนั้น ดิฉันคงจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้ายอย่างร้ายกาจ และสมควรจะถูกกำจัดเสีย...ที่เห็นชาวบ้านตาดำๆ เป็นคนโลภผิดคอนเซปต์ “ความเป็นชนบท” ตามตำราเรียนที่เรียนกันมา (มานี ชูใจ เดินเล่น จับปูดำตามคันนา โลกแบบนั้นคงมีแต่ในหนังสือแฟนตาซี ที่ผลิตโดยกระทรวงศึกษาธิการ)

ดิฉันถ่ายรูป “โอเอซีสเล็กๆ” ในเขตเมืองเชียงราย มาให้ท่านดูด้วยคะ เผื่อท่านจะมีกำลังใจอะไรบ้าง เมื่อเห็นสีเขียวๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของการเติบโต ความหวังและการมีชีวิตอยู่ อยากเป็นกำลังใจให้ท่านคะ คนเราต้องมีความฝันความหวังใช่ไหมคะ อย่างที่ท่านเคยบอก ดิฉันยังจำได้ดี

นอกจากนี้ดิฉันยังวาดรูปด้วยสีน้ำมัน ภาพวาดของดิฉันดูไม่เหมือนจะเป็นภาพอะไรได้เลย ดิฉันเพียงแต่อยากวาดสีดำที่เป็นความเศร้า และ ความตาย สีคงคล้ายๆกับน้ำมันดิบของบริษัทบีพี ที่ลอยปกคลุมพื้นที่มหาสมุทร ความตายก็คงจะปกคลุมอยู่รอบๆตัวเราทุกคนเช่นเดียวกัน ดิฉันเทสีบรอนซ์เงิน กระจายไปทั่วทั้งภาพเน่าเป็นฟองเฟะ สีบรอนซ์เงินนั้นสะท้อนแสงอาทิตย์ได้เหมือนกับรถราบนถนนตึกรามบ้านช่องที่ทันสมัยหรือแม้กระทั้งจอแอลซีดี รุ่นเรติน่าพิกเซล ที่ความละเอียด 56 ล้านจุดต่อตารางเซนติเมตร ... ถ้าเวลามีสี ก็คงเป็นสีบรอนซ์เงินนี่แหละคะ เพราะมันสะท้อนทุกสี ตัวมันเองไม่มีอยู่ แต่สะท้อนสิ่งที่อยู่รอบๆ ชีวิต และ ความตาย ใครจะหนีเวลาไปได้ใช่ไหมคะ?

น่าเศร้าที่ภาพของดิฉันไม่มีความงามเอาเสียเลย ไม่สมกับที่จะวางมาดเป็นศิลปินอะไรกับเขาได้ ดิฉันคงวาดภาพงามๆไม่ได้ในเมื่อความจริงที่ดิฉันมองเห็นและรู้สึกมันเต็มไปด้วยความเลวร้าย และ หดหู่
ดิฉันคงทำผิดพลาดอีกแล้วใช่ไหมคะ? ที่สร้างสรรค์ความเลวร้ายเพิ่มขึ้นมาให้หนักโลกใบนี้ ... ดิฉันเพียงแค่หวังว่า โลกของเราจะไม่เบาหวิวจนเกินไปจนหลุดวงโคจร และ หากเวลานั้นมาถึงจริง(ดิฉันหมายถึงเวลาที่โลกเบาหวิวเหมือนกับตอนนี้)เราคงต้องสวมหน้ากากอ๊อกซิเจน สวมทับหน้ากากที่เราสวมกันอยู่นี่อีกชั้นเป็นแน่ มันน่าอึดอัดขนาดไหนกันนะ?

หวังว่าจดหมายของดิฉันจะไม่ทำให้ท่านเครียดจนเกินไปนะคะ หรือถ้าหากท่านรู้สึกเครียด กลัวจะมีรอยตีนกา ลองหาวีต้าพรุนดื่มแล้วไปนอนซะเถิดนะคะ หลับให้สบาย :)

คิดถึงท่านมากและปรารถนาดีต่อท่านเสมอ

จูดี้

ปล.ดิฉันได้แนบรูปโลโก้ที่สวยงามของบริติช ปิโตรเลี่ยม มาให้ท่านได้ดูด้วย เป็นโลโก้สีเขียวที่ดิฉันชอบมากคะ

ปล.2 ดิฉันได้แนบบทความเรื่อง “ความโลภไม่เคยปรานีใคร เบื้องหลังแท่นเจาะน้ำมันบีพีระเบิด” เขียนโดย คุณวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ มาให้อ่านด้วยคะ ต้องขอขอบคุณคุณวันชัย มา ณ ที่นี้ด้วย

หมายเหตุ ดิฉันเขียนจดหมายฉบับนี้เลียนแบบ จูดี้ แอ๊บบอท ถึง คุณพ่อขายาว จอนห์ สมิท จากวรรณกรรมคลาสสิคเรื่อง “คุณพ่อขายาว”(Daddy-Long-Legs) เขียนโดย จีน เว็บส์เต้อร์ (Jean Webster) ก็ดิฉันไม่รู้ว่าจะเขียนถึงใครได้บ้างนี่นา


บทความเรื่อง “ความโลภไม่เคยปรานีใคร เบื้องหลังแท่นเจาะน้ำมันบี
พีระเบิด” เขียนโดย คุณวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์


ภาพถ่ายภูเขาหัวโล้นที่เชียงราย

ภาพถ่าย โอเอซีสเล็กๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น