วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

คืนสีเทา โดย แสงเล็ก๐๐๒

              “น้องมาคนเดียวเหรอคะ”

              สุภาพสตรีวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐานมากับชายร่างท้วมวัยไล่เลี่ยกัน เอ่ยทักเขา

              “ครับ ...”

              “ทำไมมาคนเดียวล่ะ”

              “ก็... ไม่ได้ชวนใคร”

              “งั้นพี่ขอสลับที่นั่งได้มั้ยคะ พอดี ที่ของน้องอยู่ตรงกลางระหว่างพี่สองคนพอดี”

              เขาขอตั๋วมาดูและเปลี่ยนที่ให้แต่โดยดี

              การสนทนาจบลงตั้งแต่นั้น และเขาก็ไม่ได้พูดกับใครอีกเลยจนกระทั่งเสร็จสิ้นการแสดง จึงค่อย ๆ แทรกตัวผ่านฝูงชนที่กลุ่มต่าง ๆ เพื่อกลับบ้าน

              ผู้มาชมโขนรอบบ่ายรายการยิ่งใหญ่แห่งปี ประกอบไปด้วย ผู้สูงอายุบนรถเข็น ลูกหลาน วัยทำงานและเด็ก ๆ บรรยากาศ คล้าย ๆ วันรวมญาติประจำปีอันอบอุ่น ของครอบครัวผู้มีฐานะ

              คำถามของสุภาพสตรีที่นั่งข้าง ๆ ว่าทำไมถึงมาคนเดียวยังก้องคงอยู่ในหู สมองกำลังคิดหาเหตุผลอันเหมาะสมสำหรับคำตอบ หรือข้ออ้างให้ตัวเองพอใจ

 

              ใช่แล้ว ตอนนี้เขาอาศัยอยู่คนเดียว มีเวลาอยู่ลำพังวันละ 12 ชั่วโมง นอนคนเดียว กินข้าวคนเดียว ขับรถคนเดียว จนเป็นเรื่องปกติ เขาเคยคิดว่าเขามีความบกพร่องทางกายภาพหรือวิกลจริตทางสมอง ทำให้มีปัญหาในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น แต่ในเมื่อเขาก็ยังดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ ไม่เดือดร้อนใคร มันก็คงเพียงพอแล้ว

              แล้วมีกิจกรรมอันใด ที่มนุษย์จำเป็นต้องทำร่วมกันมากกว่าหนึ่งคน?

 

              นับวันทุกคนจะถูกแยกให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวมากขึ้น คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ เป็นช่องทางในการสร้างตัวตนเหมือนจริงในโลกออนไลน์ โลกส่วนตัวของเราถูกแบ่งย่อย เป็นช่อง ๆ ให้พอดีสำหรับตัวตนของคนหนึ่งคน ที่เราจะเข้าถึงได้ด้วย อุปกรณ์และรหัสผ่านส่วนตัว

              ในความเงียบรอบ ๆ ข้าง เรากำลังตะโกนเสียงดัง แข่งขันอย่างรุนแรงเพื่อเรียกร้องความสนใจในสังคมเสมือนจริง

              โลกเสมือนจริง จักรวาลกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ความจริง ความลวง ความเท็จ ข้อมูลข่าวสารที่เคว้งคว้างล่องลอยละลานตาน่าตื่นใจ ล่อลวงให้ตัวตนเพลิดเพลินได้ไม่รู้จบ เขารู้สึกว่าได้เลือกในสิ่งที่ต้องการ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องง้อ ไม่ต้องทนกับคนอื่น ๆ ยิ่งเร็ว ยิ่งด่วน ยิ่งมาก ยิ่งเข้าถึงได้เท่าไหร่ ยิ่งดี  สารพัดสิ่งให้เสพกิน เติมเต็มความใคร่รู้ความสนุก ความสะใจ ความอยากได้อย่าง ไม่มีที่สิ้นสุด

 

              เขารู้สึกว่ามันคือชีวิตที่เขาเลือกได้เอง แต่มันเป็นชีวิตที่เขาเลือกเองจริง ๆ หรือถูกยัดเยียดโดยไม่รู้ตัวกันแน่

 

              เขาเริ่มสับสนในสัญชาติญาณเดิม และวิชาสังคมศึกษา ที่ว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การรวมกลุ่มทำให้มนุษย์มีการสื่อสาร ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ เรียนรู้ ถ่ายทอด อารยธรรมและวิวัฒนาการ  หรือว่าโลกแห่งความจริง อันประกอบด้วยวัตถุ ความสัมพันธ์อันซับซ้อนของสิ่งมีชีวิตรอบ ๆ ตัวกันแน่ ที่เขาควรยึดถือ ใส่ใจ

 

              เขามีเวลาอยู่ตามลำพังมากมาย เขาเข้าไปใช้้ชีวิตอยู่ในโลกเสมือนจริง ล่องลอย เคว้งคว้าง อย่างอิสระ และโดดเดี่ยว หรือนี่จะเป็นการอยู่คนเดียว แต่ไม่เคยมีเวลาให้กับตัวเองเลย

 

              ฉุยฉายเอย                                                    จะเข้าไปเฝ้าเจ้าก็กรีดกราย

เยื้องย่างเจ้าช่างปลอมกาย                            ให้ละเมียดละม้ายสีดานงลักษณ์

ถึงพระรามจะเห็นทรามวัย                             จะฉงนพระทัยให้อะเหลื่ออะหลัก …

 

              เสียงเพลงฉุยฉายปี่พาทย์ จากการแสดงโขนเมื่อกลางวัน ดังมาจากเครื่องเล่นเพลงส่วนตัว ภาพนางเบญกายปลอมเป็นสีดา ร่ายรำชดช้อย กรีดกราย ทำให้ทศกัณฐ์หลงรักจนลืมตัว อย่าว่าแต่ทศกัณฐ์ที่มีตาถึงยี่สิบคู่จะตกตะลึงในความงามเลย ทั้งเขาและคนดูทั้งหมด ต่างเคลิบเคล้ิมหลงไหลไปกับจริตมารยาของหล่อนเช่นกัน

              ความละเอียด ประนีต แช่มช้า อันเหมาะเจาะนี่สิ ที่งดงามพึงชม

              เขานึกถึึงหลาย ๆ ครอบครัวที่มาชมโขนร่วมกันในวันนี้ เด็กเล็ก ๆ แถวหลังที่พ่อยังต้องใส่ผ้าอ้อมให้ตอนหรี่ไฟเริ่มการแสดง เด็กน้อยที่สามารถนั่งชมได้ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยไม่งอแง

              เสียงเล็ก ๆ  ยังก้องอยู่ในหู เมื่อเด็กน้อยหัวเราะชอบใจ ถามพ่อตอนพระรามเคลื่อนพลไปที่ท่าน้ำ ว่าทำไมหนุมานถึงมีสองตัว... บางครั้งเด็ก ๆ ก็ไม่ได้น่ารำคาญเหมือนกันหมดทุกคนนะ เขานึกชื่นชมอยู่เงียบ ๆ

 

              ตั้งแต่เขาเสพติดสังคมข่าวสาร ที่พรั่งพรู เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เขากลายเป็นคนใจร้อน ขาดสติ ความอดทน และมองคนในแง่ลบไปเสียแล้ว...

 

              เขากำลังคิดว่า ควรจะเริ่มต้นอย่างไร เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกทอดทิ้งอยู่คนเดียว

 

 

 

แสงเล็ก ๒ สค ๕๓


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น