วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

leonids news



เตรียมตัวดูฝนดาวตกลีโอนิดส์ 17-18 พ.ย.ศกนี้

นักดาราศาสตร์ประมาณการโอกาสเห็นฝนดาวตกลีโอนิดส์ในไทยสูงสุดช่วงเวลาประมาณ 04.43 น.ของเช้าวันที่ 18 พ.ย.อัตราความชุกที่ 100-500 ดวงต่อชั่วโมง! เยาวชนและผู้สนใจสามารถร่วมกิจกรรมกับหน่วยงานเครือข่ายด้านดาราศาสตร์ได้ฟรี!



ปรากฏการณ์ฝนดาวตกเป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์อย่างหนึ่งที่ดูสวยงาม น่าสนใจ น่าตื่นเต้น และสามารถดูได้ง่ายด้วยตาเปล่า อีกทั้งยังเป็นการศึกษาเรียนรู้และเข้าใจเรื่องของธรรมชาติเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

สาเหตุของการเกิดฝนดาวตก เกิดจากดาวหางซึ่งเป็นก้อนน้ำแข็งที่ประกอบด้วยฝุ่นหินเกาะกลุ่มกันจำนวนมาก เมื่อโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ก้อนน้ำแข็งจะเกิดการระเหิด ทิ้งแนวฝุ่นหินเป็นสายธารยาว เมื่อโลกโคจรเข้าไปตัดกับสายธารดังกล่าวนี้ เศษฝุ่นหินก็จะเคลื่อนตัววิ่งเข้ามาในบรรยากาศของโลกด้วยความเร็วสูง และเกิดการเสียดสีจนลุกไหม้ปรากเป็นขีดแสงสว่างให้เราเห็น ที่เราเรียกว่า "ฝนดาวตก" นั่นเอง

กรณีของฝนดาวตกลีโอนิดส์หรือฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงโตนี้ เกิดจากการที่โลกโคจรผ่านเข้าไปในซากสายธารฝุ่นหินของดาวหาง 55 พี เทมเพล-ทัดเทิล ที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งโดยปกติ คาบการโคจรของดาวหางดวงนี้คือ 33.2 ปี ซึ่งในปีที่ครบรอบคาบการโคจรของดาวหาง ก็จะเป็นการมาเติมเศษฝุ่นหินให้มากยิ่งขึ้น และเมื่อโลกโคจรผ่านเข้าไปในใจกลางสายธารของมัน ในปีนั้นโอกาสจะเกิดฝนดาวตกก็จะมีมากกว่าปีปกติ เราจึงเรียกว่าปรากฏการณ์ "พายุฝนดาวตก" ซึ่งจากบันทึกในอดีต ดังตัวอย่างในปี ค.ศ. 1966 ที่ฮาวาย ได้เกิดพายุฝนดาวตกที่มีอัตราการตกมากถึง 5-6 หมื่นดวงต่อชั่วโมง สำหรับชื่อของฝนดาวตกลีโอนิดส์ ก็มาจากการอ้างอิงกับแหล่งการเกิด คือ กลุ่มดาวสิงโต นั่นเอง คือแม้เราจะเห็นฝนดาวตกในทิศทางต่างๆ กัน แต่เมื่อเราลองลากเส้นย้อนกลับไปยังแหล่งการเกิดแล้ว ฝนดาวตกทุกดวงจะมาจากกลุ่มดาวสิงโต

ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รอง ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สวทช. กล่าวว่า "สำหรับในช่วงวันที่ 17-18 พ.ย.นี้ แม้จะไม่ใช่รอบปีของการเกิดพายุฝนดาวตกลีโอนิดส์ แต่เราก็จะมีโอกาสเห็นฝนดาวตกในอัตราความชุกมากกว่าปีก่อนๆ เนื่องจากการคำนวณของนักดาศาสตร์หลายสำนัก พบว่า โลกจะโคจรตัดผ่านเศษซากสายธารฝุ่นหินของดาวหาง 55 พี เทมเพล-ทัดเทิล ถึงสองสายธารด้วยกัน ที่ทิ้งร่องรอยไว้ในปี ค.ศ. 1466 และ 1533 โดยอัตราการตกราว 100-500 ดวงต่อชั่วโมง (อ้างอิงที่เมื่อกลุ่มดาวสิงโตมาอยู่ที่จุดกลางฟ้าเหนือศีรษะ) แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะเห็นฝนดาวตกตลอดทั้งชั่วโมง และจำนวนฝนดาวตกที่เห็นก็ไม่ได้เห็นมากถึง 500 ดวง ตัวอย่างเช่น อัตราการตกที่ 400 ดวงต่อชั่วโมง เราเห็นแค่ช่วงเวลา 15 นาที นั่นคือ ในช่วงชั่วโมงนั้น เราจะเห็นดาวตกประมาณ 100 ดวง ซึ่งก็ถือว่ามากแล้ว"

สำหรับช่วงเวลาที่ประเทศไทยจะมีโอกาสเห็นฝนดาวตกสูงสุดในครั้งนี้ ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา กล่าวว่า "ตั้งแต่ตีหนึ่งเป็นต้นไป แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ดาวตกลูกสวยๆ มักจะมาตอนประมาณห้าทุ่ม เป็นเวลาที่กลุ่มดาวสิงโตเพิ่งขึ้นจากขอบฟ้า คือจะเห็นเป็นไฟร์บอลล์ (ดาวตกดวงใหญ่) วิ่งพาดผ่านท้องฟ้าทิ้งร่องรอยให้เห็นเป็นลำสว่างทางยาวคล้ายรางรถไฟ ซึ่งความเร็วยังไม่สูงมาก ทำให้เราเห็นได้ง่าย สำหรับช่วงพีคสูงสุดของการตก นักดาศาสตร์หลายสำนักเห็นตรงกันว่า คือเป็นเวลาประมาณ 04.43 น. ตามเวลาในบ้านเราของเช้าวันที่ 18 พ.ย.อัตราความชุกที่ 100-500 ดวงต่อชั่วโมง ซึ่งช่วงนั้นจะป็นเวลาที่ดาวสิงโตจะอยู่บริเวณกลางฟ้าพอดี นับว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมมากกว่าประเทศอื่นๆ หลายประเทศ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของโอกาส เพราะถึงเวลาจริง เราอาจจะเห็นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็เป็นได้"

สำหรับประโยชน์ของการชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกลีโอนิดส์ ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา กล่าวทิ้งท้ายว่า "สำหรับคนทั่วไปก็คงจะได้รับความตื่นเต้น ความสวยงาม และเป็นแรงบันดาลใจให้ไปศึกษาเรื่องปรากฏการณ์ฝนดาวตกหรือปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์อื่นๆ ต่อไป ส่วนนักวิจัยนั้น ก็จะศึกษาฝุ่นละอองรอบๆ ดวงอาทิตย์ ศึกษาวัตถุที่อยู่รอบๆโลกว่ามีอะไรบ้าง"

13/11/2552

////////////////////////////////////////////////

สถานที่จัดกิจกรรมชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกลีโอนิดส์

ผู้ที่สนใจชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกลีโอนิดส์ ในคืนวันที่ 17 พ.ย.ถึงรุ่งเช้าวันที่ 18 พ.ย.สามารถเข้าร่วมกิจกรรมตามสถานที่ต่างๆ ได้ ตามรายชื่อข้างล่างนี้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ภาคกลาง

· ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา รังสิต คลองหก จ.ปทุมธานี มีการเปิดแสดงท้องฟ้าจำลองรอบพิเศษ เรื่อง "ฝนดาวตก" และชมภาพยนตร์ด้านวิทยาศาสตร์อวกาศ เรื่อง "องค์ประกอบชีวิต" (ภาพยนตร์ที่ฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์)

· จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ภาคตะวันออก

· โรงเรียนชลราษฎรอำรุง อ.เมือง จ.ชลบุรี

· โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฏิ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

· โรงเรียนไผ่แก้ววิทยา อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ช่วงหัวค่ำตั้งกล้องดูดาวพฤหัสบดี

· อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ วนอุทยานเขาอีโต้ ตำบลบ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

ภาคเหนือ

· มหาวิทยาลัยนเรศวร

· มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

· มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

· สนามหน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ จัดโดย ศูนย์ศึกษาดาราศาสตร์อุตรดิตถ์ ร่วมกับหอดูดาวอารียะและกลุ่มผู้ศึกษาฝนดาวตกในประเทศไทย

· ทุ่งนาม่อนลับแล ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ จัดโดย กลุ่มนักวิทยุสมัครเล่นเครือข่ายดาราศาสตร์ไทย และชุมชนฝายหลวงลับแล

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

· มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

· มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

· มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

· มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

ภาคใต้

· มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

· มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

· มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต


ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

โทรศัพท์ 0-2564-7000 ต่อ 1461,1462 โทรสาร 0-2564-7000 ต่อ 1482 email : thaismc@nstda.or.th


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น