บทความพิเศษ : แดนอาทิตย์อุทัยไม่ได้มี 'มูราคามิ' แค่คนเดียว
ถ้าพูดถึงชื่อ "มูราคามิ" หลายๆ คนคงนึกถึงนักเขียนยอดนิยมชาวญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งในโลกวรรณกรรม (ของโลก) อย่าง ‘ฮารูกิ มูราคามิ’ ผู้โด่งดังและสร้างอิทธิพลให้นักอ่านทั่วโลกคลั่งใคล้จนแทบจะกลายเป็นศาสดาคนนึงกันเลยทีเดียว
หากแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้ไม่ได้มีพระอาทิตย์ดวงเดียวเสียเมื่อไหร่ แต่ยังมี 'มูราคามิ' อีกผู้หนึ่ง ที่เปล่งประกายแสงส่องโดดเด่นเฉิดฉายไม่แพ้กัน เพียงแต่มูราคามิคนที่ว่านั้นโลดแล่นอยู่ในโลกศิลปะและดีไซน์ และมูราคามิคนที่ว่านั้นก็มีชื่อต้นว่า
“ทาคาชิ”
‘ทาคาชิ มูราคามิ’ (Takashi Murakami) เกิดในปี 1962 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พำนักและทำงานอยู่ในญี่ปุ่นและนิวยอร์ก จบการศึกษาระดับปริญญาตรี โท และเอก ทางสาขา จิตรกรรมแนวประเพณีญี่ปุ่น (Nihonga) จาก Tokyo National University of Fine Arts and Music, ประเทศญี่ปุ่น ในปี 1986, 1988 และ1993 และได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัย UCLA (University of California, Los Angeles) ในปี 1998
ผลงานของเขามีอยู่มากมายหลายแขนง หลากสื่อ ไม่ว่าจะเป็นงานจิตรกรรม ประติมากรรม โปสเตอร์ บิลบอร์ด งานออกแบบภายใน ของแต่งบ้าน ไปจนถึงสินค้าทั่วๆ ไปอย่างฟิกเกอร์โมเดล ตุ๊กตา ฯลฯ และขยายขอบเขตของงานศิลปะของเขาออกไปสู่ทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับองค์กรทางศิลปะอย่าง GEISAI ไปจนถึงการร่วมมือกับองค์กรพานิชย์อย่าง Roppongi Hills หรือ Yuzu กระทั่งแบรนด์ระดับโลกอย่างLouis Vuitton เขาก็ยังไม่ละเว้น
เขามีงานแสดงนิทรรศการเดี่ยวและกลุ่มมากมาย ทั้งในประเทศญี่ปุ่น ยุโรป และเพิ่งมีงานนิทรรศการแสดงผลงานย้อนหลังขนาดใหญ่ที่จัดขึ้นที่ Los Angeles Museum of Contemporary Art เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
งานจิตรกรรม ประติมากรรม และงานออกแบบทั้งหลายแหล่ ของมูราคามิ มีสีสันสดใสดึงดูด และเข้าถึงเสน่ห์ความน่ารักของตัวการ์ตูนเหล่านั้น มูราคามิได้ใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในศิลปะตะวันตกของเขาผนวกกับความรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับงานจิตรกรรมโบราณของญี่ปุ่น ในการสร้างภาพลักษณ์ในแบบ ‘ความเป็นญี่ปุ่นลูกผสมอันพิลึกพิลั่น’ แต่ก็น่าดึงดูด เพื่อเป็นเครื่องมือในการปฏิวัติโลกศิลปะ
“เราใช้ความน่ารักและรูปแบบทางการ เพื่ออำพรางสิ่งที่เราอยากจะพูด จริงๆ เนื้อหาสาระในงานของผมเป็นอะไรที่อยู่ฟากตรงกันข้ามกับความน่ารักเหล่านั้น”
ผลงานของเขาได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมป๊อป และรูปทรงจากศิลปะแนวประเพณีของญี่ปุ่น ทาคาชิ มูราคามิ คือหนึ่งในศิลปินญี่ปุ่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในยุคสมัยของเขา ความคิดสร้างสรรค์ของเขาดลใจและแผ่ขยายออกไปทั่วโลกผ่านทางผลงานศิลปะ, โครงการ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ออกมาจากสตูดิโอ Kaikai Kiki* ของเขา ผลงานของเขาหลอมรวมความเป็นตะวันออก/ตะวันตก ความเป็นศิลปะ/ดีไซน์ เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน
ผลงานที่โดดเด่นของเขาอย่าง Jellyfish Eyes ซึ่งเป็นวอล์เปเปอร์ซึ่งติดบนกำแพงของ Puck's Café มูราคามิใช้สีสันอันสดใสของการ์ตูนแอนิเมชั่น และลักษณะอันแบนราบเป็นมิติเดียวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่พบได้ในงานศิลปะญี่ปุ่น ไปจนถึงการ์ตูนแบบมังงะ ผลงาน (วอล์เปเปอร์) ชิ้นนี้ยังได้ทำลายกำแพงระหว่างงานจิตรกรรมและงานตกแต่งภายใน ซึ่งสะท้อนแรงบันดาลใจมาจากศิลปินป๊อบอาร์ตผู้ยิ่งใหญ่อย่าง แอนดี้ วอร์ฮอล (Andy Warhol)
ในฐานะศิลปิน มูราคามิตั้งคำถามเกี่ยวกับเส้นแบ่งระหว่างตะวันออกและตะวันตก อดีตและปัจจุบัน ศิลปะชั้นสูงและวัฒนธรรมป๊อบ เขาไม่ได้หยุดอยู่กับแค่การผลิตงานศิลปะ มูราคามิช็อกโลกด้วยการจับมือกับแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Louis Vuitton และท้าทายพรมแดนที่แบ่งระหว่างศิลปะและพานิชย์
ในฐานะภัณฑารักษ์ มูราคามิท้าทายความเชื่อของเราเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ด้วยงานแสดงนิทรรศการสามส่วนของซุเปอร์แฟลต Superflat ซึ่งเดินสายในพิพิธภัณท์สำคัญๆ ในอเมริกาและยุโรป เขาพยายามที่จะนำเสนอศิลปินญี่ปุ่น แอนิเมเตอร์ นักเขียนการ์ตูน ออกสู่สายตาของสาธารณชน ภายใต้ความจริงที่ว่าผลงานที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์เหล่านี้ไม่ได้อยู่ในกรอบและธรรมเนียมปฏิบัติของสังคมญี่ปุ่น และอาจจะไม่ได้ถูกยอมรับเป็นงานศิลปะด้วยซ้ำ ผลงานจัดวางชิ้นสุดท้ายในนิทรรศการของเขาอย่าง ‘Little Boy’ เปรียบเสมือนการตีความประวัติศาสตร์ทางการเมืองของญี่ปุ่นในเรื่องระเบิดนิวเคลียร์ และตั้งคำถามเกี่ยวกับวัฒนธรรมป๊อบในสังคมญี่ปุ่นยุคหลังสงครามโลก
ในขณะที่เขานำเสนอแนวคิดใหม่ทั้งภายนอกและภายในเกี่ยวกับญี่ปุ่น มูราคามิยังคงยืนยันที่จะนำเสนอศิลปะญี่ปุ่นออกไปสู่สายตาของชาวโลก ซึ่งในแต่ละสองปีเขาจะจัดงานเทศกาล GEISAI ขึ้นที่ญี่ปุ่นเพื่อสนับสนุนศิลปินหน้าใหม่ที่มีความสามารถให้ได้แสดงผลงาน และเขายังมีบริษัท Kaikai Kiki ของเขาที่สนับสนุนและจัดการด้านการเงินเพื่อช่วยในด้านความอยู่รอดของกลุ่มศิลปินเหล่านั้น
“ผมอยากจะเป็นสินค้าตัวอย่างที่มีชีวิตเพื่อแสดงศักยภาพของศิลปะ”
นี่คือปณิธาณที่เป็นขุมพลังให้มูราคามิสร้างสรรค์ผลงานมาจวบจนทุกวันนี้
*Kaikai Kiki
ก่อตั้งขึ้นโดยทาคาชิ มูราคามิ ในปี 2001 โดยตอนแรกสร้างขึ้นจากโรงงานเก่าชื่อ ฮิโรปอน เป้าหมายของมันคือการเป็นองค์กรที่รวมเอาทั้งกระบวนการผลิตและการประชาสัมพันธ์ รวมถึงการจัดจำหน่ายผลงานศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อช่วยในด้านการจัดการและสนับสนุนศิลปินหน้าใหม่ที่ถูกคัดเลือกเข้ามา ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองฮิโร โตเกียว ลองไอร์แลนด์ นิวยอร์ก และไดนากายามา
โตเกียว ไกไก กิกิ (Tokyo Kaikai Kiki) เป็นบริษัทแห่งแรกในญี่ปุ่นที่มีเป้าหมายในการพัฒนาริ่เริ่มและประชาสัมพันธ์การวิวัฒน์และพัฒนาวงการศิลปะร่วมสมัยในปัจจุบัน
ข้อมูล : http://www.nytimes.com/1999/07/18/arts/art-architecture-the-fine-art-of-biting-into-japanese-cuteness.html, http://articles.sfgate.com/2004-07-14/entertainment/17432959_1_sanrio-kitty-president-shintaro-tsuji/2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น