วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แม่

โดย เล็ก หมีพูห์




ระหว่างขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาจากบิ๊กซี เชียงราย
แว่บหนึ่งของความรู้สึกอยากจะเขียนถึงแม่ขึ้นมา
เนื่องจากได้พูดคุยถึงหนังเรื่องหนึ่งของจางอวี้โหมว เรื่อง The Road Home
ที่นางเอกของเรื่อง เอากระดาษฉลุลายดอกไม้สีแดง มาประดับห้องเรียน ที่พระเอกเป็นครูประจำชั้น
เป็นการรอคอยพระเอก ที่ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไร เพราะพระเอกถูกพรรคคอมมิวนิสค์เรียกตัวไปสอบสวน

นางเอกของเรื่อง The Road Home แสดงโดยจางซี่ยี่
นางเอกเป็นเด็กสาววัยรุ่นบ้านนอก การศึกษาน้อย
แต่ไปปิ๊งกับครูอาสา ที่เข้ามาสอนเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน
หนังถ่ายทอดความรักใสซื่อของครูอาสาและสาวบ้านนอก ที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ
ความรักมีอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ พอให้คนดูเอาใจช่วยลุ้น
จนกระทั่งพระเอกถูกพรรคเรียกตัวไป อย่างที่เล่าไว้ตอนต้น

ใครที่ยังใม่เคยดูหนังเรื่องนี้ น่าจะไปหามาดูอย่างยิ่ง
ชมรมแสงเล็กน่าจะเอามาฉายเป็นโปรแกรมเด่นได้อีกเรื่องหนึ่ง
จะไม่ขอเล่าเรื่องจากหนังมากกว่านี้นะครับ เพราะว่าผู้เขียนจะคุยเรื่องแม่ตัวเอง

จริง ๆ แล้ว ความรู้สึกจากหนังที่มันลิงก์มาหาแม่ ไม่มีอะไรมากเลย
นอกจากฉากที่นางเอกตกแต่งลายฉลุกระดาษแดง ประดับหน้าต่างห้องเรียน
มันทำให้ผู้เขียนคิดไปถึง คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของเรา ที่เรียนหนังสืออย่างมากก็ชั้น ป 4
คนจบ ป 4 เรามักจะคิดว่า รู้น้อยแค่นั้น ทำอะไรได้กับชีวิต

แม่ของผู้เขียน เรียนจบ ป 4 เช่นกัน
เดี๋ยวนี้แม่ไม่ได้ทำงานหนักอะไร เพราะอายุมากแล้ว
ลูก ๆ ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือน ไม่มีอะไรต้องดิ้นรน
มีน้องชายคนเล็ก ดูแลสุขภาพให้แม่อย่างใกล้ชิด

ตามประสาคนแก่ แม่มักจะอยู่กับบ้าน ไม่ค่อยเดินเหินไปไหน เพราะเข่าไม่ค่อยดีแล้ว
เนื่องจากแม่มีความรู้แค่ ป 4 จึงพูดจาคมคายแบบแม่ที่มีการศึกษาสูงไม่เป็น
และทำให้สังคมของแม่ เป็นชาวบ้านร้านตลาด ที่ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าว่าง ไม่ล้อมวงนินทา ก็คุยเรื่องหวย
โชคดี ที่แม่กลับไม่ชอบไปจับกลุ่มนินทาแบบนั้น
แต่แม่ของผู้เขียน กลับชอบใช้เวลาไปกับการตกแต่งบ้าน
ฟังดูเหมือนธรรมดา ใครก็แต่งบ้านเป็น แต่แม่ของผู้เขียนน่าจะแตกต่างจากแม่ ๆ คนอื่น ๆ อยู่บ้าง
เพราะแม่ของผู้เขียน มีมุมมองและกระทำกับการแต่งบ้าน เหมือนกับ สถาปนิก หรือ Architect
คือมีการออกแบบในใจ (หรืออาจจะเคยขีดเขียนเป็นแปลนกระดาษก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน)
มีการไปเดินเลือกซื้อของตกแต่ง ที่ตลาดนัดจตุจักร หรือห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน
เพื่อมาประกอบหรือจัดวางให้ได้ตามที่ตัวเองวาดฝันหรือจินตนาการไว้

ที่ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของแม่ คือการตกแต่ง Landscape รอบบ้าน
ในพื้นที่ 26 ตารางวาของทาวน์เฮาส์ บ้านแม่ที่บางบัวทอง ซึ่งมีรูปทรงสี่เหลี่ยมค่อนข้างแข็ง
แม่ได้แก้ปัญหาความแข็งของโครงสร้างบ้าน
ด้วยการปลูกต้นมะม่วงใหญ่ ที่อายุกว่ายี่สิบปีแล้ว ดูร่มรื่นกว่าบ้านไหน ๆ
หน้าบ้าน ที่เป็นปูนแข็ง ๆ แม่ขุดบ่อปลาด้านซ้ายมือ ตรงพื้น ที่ยกระดับก่อนเข้าตัวบ้าน
ทำระบบปั๊มน้ำ หมุนเวียนน้ำ เกิดเป็นน้ำตกเล็ก ๆ ที่ไหลเซาะผ่านโขดหิน ลงไปในบ่อปลา
ที่มีปลาหลากพันธุ์แหวกว่ายในน้ำใส ๆ กับเสียงน้ำใสไหลจ๊อก ๆ ดูน่าฟัง

เมื่อย่างเข้าไปในตัวบ้าน สัมผัสแรกที่แขกผู้มาเยือนจะได้สัมผัส คือพื้นกระเบื้องสีเข้ม สะท้อนความสะอาดแวววาว
สิ่งที่หายากมากในบ้าน คือ...ฝุ่น
นั่งเอนบนเบาะโซฟานุ่ม ๆ หากแขกมองไปรอบ ๆ ห้อง ก็จะเห็นโมบายล์นก แขวนไว้หลาย ๆ มุม
เพราะแม่ชอบนกประดิษฐ์ ไม่ว่าทำด้วยวัสดุอะไร ก็จะเอามาตกแต่งบ้าน
แม่ไม่นิยมการเลี้ยงนกจริงในกรง เพราะขี้สงสาร เลยมีแต่นกปลอม
อากาศในบ้าน ที่ถ่ายเทได้ดี และบ้านกรองความร้อนได้ดี ทำให้รู้สึกเย็น
พอเอนบนโซฟานุ่ม ๆ เผลอเพลินชมนกชมไม้ปลอม ๆ ในบ้านและนอกบ้าน อาจจะหลับได้
หากหลับไปยาว ตื่นมากลางคืน ถ้าไฟในห้องดับแล้ว จะเห็นสติกเกอร์ดาวเดือนปสะท้อนแสงออกมาจากเพดานด้วย

แม่ไม่ได้มีโอกาสไปสัมผัสธรรมชาติป่าเขามากนัก
แต่ถ้าหากได้ไป แม่จะจับจ้องมองภูเขา แทบจะตลอดเวลา จนภูเขาลูกนั้นหายลับไปจากสายตา
ด้วยเหตุที่แม่มีความรักในธรรมชาติ และไม่ได้ไปชื่นชมบ่อยนัก
แม่ก็เลยเอามาตกแต่งเลียนแบบ ไว้ในบ้านเสียเลย

ผู้เขียนเดาเอาว่า แม่คงเป็นสถาปนิกโดยธรรมชาติ ไม่ได้ไปเล่าเรียนที่ไหน ๆ
ตอนดูหนังเรื่อง Roadhome ในฉากนางเอกไปแต่งห้องเรียน ด้วยกระดาษฉลุลายดอกไม้ ก็นึกถึงแม่ทุกที
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...ความรักในบางสิ่งบางอย่าง มีอยู่ในตัวคนแล้วโดยธรรมชาติ ระบบการศึกษามาทีหลัง
แม่เลือกที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และแม่ทำมันอยู่เรื่อย ๆ
นี้อาจจะเป็นปรัชญาชีวิตที่แม่อยากจะบอกกับลูกทุกคนก็เป็นได้นะ

5 ความคิดเห็น:

  1. ขอรับรองว่าข้อความข้างต้นเป็นฟามจริง

    ตอบลบ
  2. ชอบค่ะพี่เล็ก (:

    ตอบลบ
  3. ผมชอบเรื่อง The Road Home มากครับ เป็นหนังรักในดวงใจเรื่องหนึ่งครับ

    ตอบลบ
  4. สวัสดีครับพี่เล็ก,

    ขออภัยที่วันนั้นเมื่อสามเดือนก่อนไม่ได้อยู่พูดคุยด้วยเท่าที่ควร หวังว่าพี่จะเข้าใจ มีโอกาสไปเชียงรายจะไปเหยียบ(สำเนียงชาติ ระหาร)นะครับ

    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ