โดย เล็ก หมีพูห์
แว่บหนึ่งของความรู้สึกอยากจะเขียนถึงแม่ขึ้นมา
เนื่องจากได้พูดคุยถึงหนังเรื่องหนึ่งของจางอวี้โหมว เรื่อง The Road Home
ที่นางเอกของเรื่อง เอากระดาษฉลุลายดอกไม้สีแดง มาประดับห้องเรียน ที่พระเอกเป็นครูประจำชั้น
เป็นการรอคอยพระเอก ที่ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไร เพราะพระเอกถูกพรรคคอมมิวนิสค์เรียกตัวไปสอบสวน
นางเอกของเรื่อง The Road Home แสดงโดยจางซี่ยี่
นางเอกเป็นเด็กสาววัยรุ่นบ้านนอก การศึกษาน้อย
แต่ไปปิ๊งกับครูอาสา ที่เข้ามาสอนเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน
หนังถ่ายทอดความรักใสซื่อของครูอาสาและสาวบ้านนอก ที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ
ความรักมีอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ พอให้คนดูเอาใจช่วยลุ้น
จนกระทั่งพระเอกถูกพรรคเรียกตัวไป อย่างที่เล่าไว้ตอนต้น
ใครที่ยังใม่เคยดูหนังเรื่องนี้ น่าจะไปหามาดูอย่างยิ่ง
ชมรมแสงเล็กน่าจะเอามาฉายเป็นโปรแกรมเด่นได้อีกเรื่องหนึ่ง
จะไม่ขอเล่าเรื่องจากหนังมากกว่านี้นะครับ เพราะว่าผู้เขียนจะคุยเรื่องแม่ตัวเอง
จริง ๆ แล้ว ความรู้สึกจากหนังที่มันลิงก์มาหาแม่ ไม่มีอะไรมากเลย
นอกจากฉากที่นางเอกตกแต่งลายฉลุกระดาษแดง ประดับหน้าต่างห้องเรียน
มันทำให้ผู้เขียนคิดไปถึง คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของเรา ที่เรียนหนังสืออย่างมากก็ชั้น ป 4
คนจบ ป 4 เรามักจะคิดว่า รู้น้อยแค่นั้น ทำอะไรได้กับชีวิต
เนื่องจากได้พูดคุยถึงหนังเรื่องหนึ่งของจางอวี้โหมว เรื่อง The Road Home
ที่นางเอกของเรื่อง เอากระดาษฉลุลายดอกไม้สีแดง มาประดับห้องเรียน ที่พระเอกเป็นครูประจำชั้น
เป็นการรอคอยพระเอก ที่ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไร เพราะพระเอกถูกพรรคคอมมิวนิสค์เรียกตัวไปสอบสวน
นางเอกของเรื่อง The Road Home แสดงโดยจางซี่ยี่
นางเอกเป็นเด็กสาววัยรุ่นบ้านนอก การศึกษาน้อย
แต่ไปปิ๊งกับครูอาสา ที่เข้ามาสอนเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน
หนังถ่ายทอดความรักใสซื่อของครูอาสาและสาวบ้านนอก ที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ
ความรักมีอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ พอให้คนดูเอาใจช่วยลุ้น
จนกระทั่งพระเอกถูกพรรคเรียกตัวไป อย่างที่เล่าไว้ตอนต้น
ใครที่ยังใม่เคยดูหนังเรื่องนี้ น่าจะไปหามาดูอย่างยิ่ง
ชมรมแสงเล็กน่าจะเอามาฉายเป็นโปรแกรมเด่นได้อีกเรื่องหนึ่ง
จะไม่ขอเล่าเรื่องจากหนังมากกว่านี้นะครับ เพราะว่าผู้เขียนจะคุยเรื่องแม่ตัวเอง
จริง ๆ แล้ว ความรู้สึกจากหนังที่มันลิงก์มาหาแม่ ไม่มีอะไรมากเลย
นอกจากฉากที่นางเอกตกแต่งลายฉลุกระดาษแดง ประดับหน้าต่างห้องเรียน
มันทำให้ผู้เขียนคิดไปถึง คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของเรา ที่เรียนหนังสืออย่างมากก็ชั้น ป 4
คนจบ ป 4 เรามักจะคิดว่า รู้น้อยแค่นั้น ทำอะไรได้กับชีวิต
แม่ของผู้เขียน เรียนจบ ป 4 เช่นกัน
เดี๋ยวนี้แม่ไม่ได้ทำงานหนักอะไร เพราะอายุมากแล้ว
ลูก ๆ ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือน ไม่มีอะไรต้องดิ้นรน
มีน้องชายคนเล็ก ดูแลสุขภาพให้แม่อย่างใกล้ชิด
ตามประสาคนแก่ แม่มักจะอยู่กับบ้าน ไม่ค่อยเดินเหินไปไหน เพราะเข่าไม่ค่อยดีแล้ว
เนื่องจากแม่มีความรู้แค่ ป 4 จึงพูดจาคมคายแบบแม่ที่มีการศึกษาสูงไม่เป็น
และทำให้สังคมของแม่ เป็นชาวบ้านร้านตลาด ที่ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าว่าง ไม่ล้อมวงนินทา ก็คุยเรื่องหวย
โชคดี ที่แม่กลับไม่ชอบไปจับกลุ่มนินทาแบบนั้น
แต่แม่ของผู้เขียน กลับชอบใช้เวลาไปกับการตกแต่งบ้าน
ฟังดูเหมือนธรรมดา ใครก็แต่งบ้านเป็น แต่แม่ของผู้เขียนน่าจะแตกต่างจากแม่ ๆ คนอื่น ๆ อยู่บ้าง
เพราะแม่ของผู้เขียน มีมุมมองและกระทำกับการแต่งบ้าน เหมือนกับ สถาปนิก หรือ Architect
คือมีการออกแบบในใจ (หรืออาจจะเคยขีดเขียนเป็นแปลนกระดาษก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน)
มีการไปเดินเลือกซื้อของตกแต่ง ที่ตลาดนัดจตุจักร หรือห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน
เพื่อมาประกอบหรือจัดวางให้ได้ตามที่ตัวเองวาดฝันหรือจินตนาการไว้
ที่ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของแม่ คือการตกแต่ง Landscape รอบบ้าน
ในพื้นที่ 26 ตารางวาของทาวน์เฮาส์ บ้านแม่ที่บางบัวทอง ซึ่งมีรูปทรงสี่เหลี่ยมค่อนข้างแข็ง
แม่ได้แก้ปัญหาความแข็งของโครงสร้างบ้าน
ด้วยการปลูกต้นมะม่วงใหญ่ ที่อายุกว่ายี่สิบปีแล้ว ดูร่มรื่นกว่าบ้านไหน ๆ
หน้าบ้าน ที่เป็นปูนแข็ง ๆ แม่ขุดบ่อปลาด้านซ้ายมือ ตรงพื้น ที่ยกระดับก่อนเข้าตัวบ้าน
ทำระบบปั๊มน้ำ หมุนเวียนน้ำ เกิดเป็นน้ำตกเล็ก ๆ ที่ไหลเซาะผ่านโขดหิน ลงไปในบ่อปลา
ที่มีปลาหลากพันธุ์แหวกว่ายในน้ำใส ๆ กับเสียงน้ำใสไหลจ๊อก ๆ ดูน่าฟัง
เมื่อย่างเข้าไปในตัวบ้าน สัมผัสแรกที่แขกผู้มาเยือนจะได้สัมผัส คือพื้นกระเบื้องสีเข้ม สะท้อนความสะอาดแวววาว
สิ่งที่หายากมากในบ้าน คือ...ฝุ่น
นั่งเอนบนเบาะโซฟานุ่ม ๆ หากแขกมองไปรอบ ๆ ห้อง ก็จะเห็นโมบายล์นก แขวนไว้หลาย ๆ มุม
เพราะแม่ชอบนกประดิษฐ์ ไม่ว่าทำด้วยวัสดุอะไร ก็จะเอามาตกแต่งบ้าน
แม่ไม่นิยมการเลี้ยงนกจริงในกรง เพราะขี้สงสาร เลยมีแต่นกปลอม
อากาศในบ้าน ที่ถ่ายเทได้ดี และบ้านกรองความร้อนได้ดี ทำให้รู้สึกเย็น
พอเอนบนโซฟานุ่ม ๆ เผลอเพลินชมนกชมไม้ปลอม ๆ ในบ้านและนอกบ้าน อาจจะหลับได้
หากหลับไปยาว ตื่นมากลางคืน ถ้าไฟในห้องดับแล้ว จะเห็นสติกเกอร์ดาวเดือนปสะท้อนแสงออกมาจากเพดานด้วย
แม่ไม่ได้มีโอกาสไปสัมผัสธรรมชาติป่าเขามากนัก
แต่ถ้าหากได้ไป แม่จะจับจ้องมองภูเขา แทบจะตลอดเวลา จนภูเขาลูกนั้นหายลับไปจากสายตา
ด้วยเหตุที่แม่มีความรักในธรรมชาติ และไม่ได้ไปชื่นชมบ่อยนัก
แม่ก็เลยเอามาตกแต่งเลียนแบบ ไว้ในบ้านเสียเลย
ผู้เขียนเดาเอาว่า แม่คงเป็นสถาปนิกโดยธรรมชาติ ไม่ได้ไปเล่าเรียนที่ไหน ๆ
ตอนดูหนังเรื่อง Roadhome ในฉากนางเอกไปแต่งห้องเรียน ด้วยกระดาษฉลุลายดอกไม้ ก็นึกถึงแม่ทุกที
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...ความรักในบางสิ่งบางอย่าง มีอยู่ในตัวคนแล้วโดยธรรมชาติ ระบบการศึกษามาทีหลัง
แม่เลือกที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และแม่ทำมันอยู่เรื่อย ๆ
นี้อาจจะเป็นปรัชญาชีวิตที่แม่อยากจะบอกกับลูกทุกคนก็เป็นได้นะ
เดี๋ยวนี้แม่ไม่ได้ทำงานหนักอะไร เพราะอายุมากแล้ว
ลูก ๆ ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือน ไม่มีอะไรต้องดิ้นรน
มีน้องชายคนเล็ก ดูแลสุขภาพให้แม่อย่างใกล้ชิด
ตามประสาคนแก่ แม่มักจะอยู่กับบ้าน ไม่ค่อยเดินเหินไปไหน เพราะเข่าไม่ค่อยดีแล้ว
เนื่องจากแม่มีความรู้แค่ ป 4 จึงพูดจาคมคายแบบแม่ที่มีการศึกษาสูงไม่เป็น
และทำให้สังคมของแม่ เป็นชาวบ้านร้านตลาด ที่ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าว่าง ไม่ล้อมวงนินทา ก็คุยเรื่องหวย
โชคดี ที่แม่กลับไม่ชอบไปจับกลุ่มนินทาแบบนั้น
แต่แม่ของผู้เขียน กลับชอบใช้เวลาไปกับการตกแต่งบ้าน
ฟังดูเหมือนธรรมดา ใครก็แต่งบ้านเป็น แต่แม่ของผู้เขียนน่าจะแตกต่างจากแม่ ๆ คนอื่น ๆ อยู่บ้าง
เพราะแม่ของผู้เขียน มีมุมมองและกระทำกับการแต่งบ้าน เหมือนกับ สถาปนิก หรือ Architect
คือมีการออกแบบในใจ (หรืออาจจะเคยขีดเขียนเป็นแปลนกระดาษก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน)
มีการไปเดินเลือกซื้อของตกแต่ง ที่ตลาดนัดจตุจักร หรือห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน
เพื่อมาประกอบหรือจัดวางให้ได้ตามที่ตัวเองวาดฝันหรือจินตนาการไว้
ที่ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของแม่ คือการตกแต่ง Landscape รอบบ้าน
ในพื้นที่ 26 ตารางวาของทาวน์เฮาส์ บ้านแม่ที่บางบัวทอง ซึ่งมีรูปทรงสี่เหลี่ยมค่อนข้างแข็ง
แม่ได้แก้ปัญหาความแข็งของโครงสร้างบ้าน
ด้วยการปลูกต้นมะม่วงใหญ่ ที่อายุกว่ายี่สิบปีแล้ว ดูร่มรื่นกว่าบ้านไหน ๆ
หน้าบ้าน ที่เป็นปูนแข็ง ๆ แม่ขุดบ่อปลาด้านซ้ายมือ ตรงพื้น ที่ยกระดับก่อนเข้าตัวบ้าน
ทำระบบปั๊มน้ำ หมุนเวียนน้ำ เกิดเป็นน้ำตกเล็ก ๆ ที่ไหลเซาะผ่านโขดหิน ลงไปในบ่อปลา
ที่มีปลาหลากพันธุ์แหวกว่ายในน้ำใส ๆ กับเสียงน้ำใสไหลจ๊อก ๆ ดูน่าฟัง
เมื่อย่างเข้าไปในตัวบ้าน สัมผัสแรกที่แขกผู้มาเยือนจะได้สัมผัส คือพื้นกระเบื้องสีเข้ม สะท้อนความสะอาดแวววาว
สิ่งที่หายากมากในบ้าน คือ...ฝุ่น
นั่งเอนบนเบาะโซฟานุ่ม ๆ หากแขกมองไปรอบ ๆ ห้อง ก็จะเห็นโมบายล์นก แขวนไว้หลาย ๆ มุม
เพราะแม่ชอบนกประดิษฐ์ ไม่ว่าทำด้วยวัสดุอะไร ก็จะเอามาตกแต่งบ้าน
แม่ไม่นิยมการเลี้ยงนกจริงในกรง เพราะขี้สงสาร เลยมีแต่นกปลอม
อากาศในบ้าน ที่ถ่ายเทได้ดี และบ้านกรองความร้อนได้ดี ทำให้รู้สึกเย็น
พอเอนบนโซฟานุ่ม ๆ เผลอเพลินชมนกชมไม้ปลอม ๆ ในบ้านและนอกบ้าน อาจจะหลับได้
หากหลับไปยาว ตื่นมากลางคืน ถ้าไฟในห้องดับแล้ว จะเห็นสติกเกอร์ดาวเดือนปสะท้อนแสงออกมาจากเพดานด้วย
แม่ไม่ได้มีโอกาสไปสัมผัสธรรมชาติป่าเขามากนัก
แต่ถ้าหากได้ไป แม่จะจับจ้องมองภูเขา แทบจะตลอดเวลา จนภูเขาลูกนั้นหายลับไปจากสายตา
ด้วยเหตุที่แม่มีความรักในธรรมชาติ และไม่ได้ไปชื่นชมบ่อยนัก
แม่ก็เลยเอามาตกแต่งเลียนแบบ ไว้ในบ้านเสียเลย
ผู้เขียนเดาเอาว่า แม่คงเป็นสถาปนิกโดยธรรมชาติ ไม่ได้ไปเล่าเรียนที่ไหน ๆ
ตอนดูหนังเรื่อง Roadhome ในฉากนางเอกไปแต่งห้องเรียน ด้วยกระดาษฉลุลายดอกไม้ ก็นึกถึงแม่ทุกที
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...ความรักในบางสิ่งบางอย่าง มีอยู่ในตัวคนแล้วโดยธรรมชาติ ระบบการศึกษามาทีหลัง
แม่เลือกที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และแม่ทำมันอยู่เรื่อย ๆ
นี้อาจจะเป็นปรัชญาชีวิตที่แม่อยากจะบอกกับลูกทุกคนก็เป็นได้นะ
ขอรับรองว่าข้อความข้างต้นเป็นฟามจริง
ตอบลบชอบค่ะพี่เล็ก (:
ตอบลบขอบใจจ้า บี
ตอบลบผมชอบเรื่อง The Road Home มากครับ เป็นหนังรักในดวงใจเรื่องหนึ่งครับ
ตอบลบสวัสดีครับพี่เล็ก,
ตอบลบขออภัยที่วันนั้นเมื่อสามเดือนก่อนไม่ได้อยู่พูดคุยด้วยเท่าที่ควร หวังว่าพี่จะเข้าใจ มีโอกาสไปเชียงรายจะไปเหยียบ(สำเนียงชาติ ระหาร)นะครับ
ขอบคุณครับ