วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

สวนครัวโลก


เชียงใหม่เขามีงาน “พืชสวนโลก” ที่อีสานปีนี้ตั้งใจจะให้มี ”สวนครัวโลก” คิดเบาๆแต่เอาจริงๆนะเธอ ตอนนี้ลงมือลุยแล้ว ทำแปลงสวนครัวประณีตข้างบ้าน เพื่อเป็นแบบอย่างให้คนที่คิดจะปลูกผักสนุกๆและรักสุขภาพให้ไฉไล โจทย์อยู่ตรงที่ว่า ปลูกผักอย่างไรให้สนุกและสมประโยชน์ทุกด้าน ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมามีผักรุ่นแรกออกมาให้เด็ดลงกระทะร้อนตอนเช้าๆกินกับข้าวต้มบ้างแล้ว ผักรุ่นใหม่กำลังจะงอก ส่วนผักไต่ราวกำลังยั้วเยี้ยไต่ราวออกตุ่มดอกให้เห็นบ้างแล้ว แตงกวา ถั่วพู ถั่วฝักยาว-ฝักสั้น บวบ ตำลึง น้ำเต้า ฟักทอง ชมจันทร์ คาดว่าจะทยอยเด็ดผลผลิตได้ในอีกกลางเดือนหน้า ทีนี้ละเธอเอ๋ย..เจี๊ยะกันแทบไม่ทัน จะสิ้นเปลืองมากเฉพาะผักเช่น คะน้า ผักกวงตุ้ง ผักกาดขาว ผักชีจีน ผักชีลาว สลัด ผักบุ้ง คื่นไฉ่ มะเขือ

พวกนี้ต้องปลูกมากๆแบบหมุนเวียน
ส่วนผักชูรสชูรักมีปะเลอะ ยี่หร่า สะระเหน่ กระเพา พริก โหระพา แมงลัก ฯลฯ

ส่วนผักผลไม้พื้นเมือง บ่ต้องห่วงปลูกสะสมไว้แล้ว ผักพวกนี้ดูแลง่าย ไม่มีต้องดูแลมาก ไม่ต้องฉีดยาใดๆ ถึงว่าเวลาก็ออกดอกออกผลมาเสนอตัวเอง ตอนนี้มีสะเดา มะรุม มะกล่ำ ยืนเป็นตัวหลัก คนที่ชอบรับรองท้องพลุ้ยแน่ 3ตัวนี้มีให้ชิมไม่อั้น วันละกี่เข่งก็ได้ ทำเมนูเด็ดได้สารพัด เรื่องอย่างนี้พูดไปก็เท่านั้น คนที่ไม่เคยสัมผัสก็เหมือนพวกวาสนาอักเสบนั่นแหละ จะรู้อะไรๆได้ในเมื่อมองโลกแคบเหมือนรู้เข็ม อยู่กับความเคยชินที่จำกัดจำเขี่ย เผลอๆคิดว่าตัวเองรู้แล้วพอแล้ว ทั้งๆที่พยาธิในท้องร้องซะลั่น

แปลงสวนครัวบ้านป่า
ได้ทำแปลงผักสาธิตไม่แพ้ของใครในโลกนี้
ออกแบบไว้ให้ปลูกง่าย ดูแลง่าย เดินชมง่าย เด็ดมาชิมสดๆง่ายๆ
มีผักสดปลอดสารพิษอวบกรอบอร่อยไม่พอหรอก
มันต้องสืบเนื่องไปถึงเรื่องการปรุงการชิมการคิดค้นสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ

ช่วงเว้นวรรคฝนอย่างนี้ ผมวางแผนยกครัวออกมากลางแจ้ง จัดการขุดเตาดาโกต้าดังที่เล่ามาเป็นระยะๆ ทดลองทำอาหารและขนมอบปิ้งย่างตุ๋นสารพัด เดินไฟฟ้ามาใช้แสงสว่างและกิจกรรมที่จำเป็น ถึงจะมีเตาหลุมแต่อาหารบางอย่างต้องการความร้อนฉับพลัน เช่น ผัดผักสดกระทะร้อน เราก็ยกเตาแก๊สออกมาด้วยสิครับ มุมล้างจานเดินก๊อกน้ำไว้ แล้วไปซื้อซิงค์ล้างจานแบบมือถือมาใช้ เห็นแล้วชอบใจมาก ขนขึ้นรถคุณเล็กมากาง แหม เธอเอ๋ยจ๊าบส์จริงๆขอบอก ใครเห็นก็อยากทดลองล้าง เอาเก้าอี้เตี้ยๆไปวาง นั่งล้างไปยิ้มไปยังได้เลยเธอ

Key Word: ประจำปีนี้
“ติดโชคอัพให้ชีวิต เลิกยึดติดกับดักตัวเอง”
แปลงผักและครัวโลกกำลังพัฒนาต่อไป ต่อไป
ลองอ่านตรงนี้ดูสิครับ.>.>

วันที่ 6-8 มกราคมนี้ ผมจะพาเพื่อนไปสวนป่า ไปหาครูบาเพื่อถ่ายชุดความรู้เกี่ยวกับชีวิต ซึ่งจะทำการเผยแพร่ในวงกว้างต่อไป แต่ไม่เท่านั้นหรอกครับ ที่จริงแล้วเป็นโอกาสอันดีของคณะที่ไป ที่จะได้เรียนรู้สิ่งที่แตกต่างออกไปจากชีวิตประจำวัน มี (iwhale+เรือพ่วง) (น้องปูอาสาดุสิต+คุณแม่) (น้องบีอาสาดุสิต+เรือพ่วงอีกสาม) ที่เหลือพวกหนุ่มๆ มีให้อีกสองห้องครับ อาราธนา’จานปูผู้อพยพพันธุ์ก๊ากไปนอนกับแม่หวี

นอกจากผลิตชุดความรู้แล้ว ก็ต้องใช้เวลาที่อยู่ที่สวนป่าให้คุ้มค่า เลยคิดกันว่าจะทดลองขึ้นโครงสร้าง star dome ดูเล่นสักหลัง น่าจะใช้เวลาสัก 3 ชั่วโมง ยังไม่ต้องทำผนังก็ได้ star dome เกิดขึ้นในญี่ปุ่น ใช้ซีกไม้ไผ่ 17 ท่อน มางอให้เป็นรูปครึ่งวงกลม แล้วขัดกันไว้ ก็จะได้โครงสร้างรูปครึ่งทรงกลมที่มีความแข็งแรง ทนพายุ ทนฝนหนัก มีอากาศถ่ายเทดี
แต่ว่าเผอิญผมเป็นพวกนอกตำรา ถ้าใช้ไม้ไผ่ทำ สวนป่ามีไม้ไผ่เยอะแยะครับ ทิ้งวิธีคำนวณไว้ เอามาสร้างค้างให้ถั่วหรือน้ำเต้าไต่ก็ได้ จะทำเป็นโรงเพาะเห็ดเพาะถั่วงอกก็ได้ จะเป็นที่ศาลากลางป่าก็ได้ หรือว่าเป็นที่พักให้กางเต้นท์ในโดมก็ได้ ผมคิดจะขึ้นโครงของ star dome ด้วยสายยางอากาศของตู้ปลา เสี่ยงเหมือนกันนะครับเนี่ย เพราะว่าสายยางมันอ่อนมาก แต่ว่าถ้ามัดจุดเชื่อมต่อให้แน่น เผลอๆ ก็น่าจะขึ้นรูปได้ แล้วเราก็ทิ้งเอาไว้ ดูสิว่าจะพังหรือไม่

ผมนะเป็นพวกร้อนวิชาตาเข ใครเสนออะไรมาพร้อมถลารับทำ ตอนนี้ตีแตกกิจกรรมออกมาไว้แล้ว.>.>จะตัดไม้ไผ่มาสร้างเป็นโดมวงกลมขนาดใหญ่ แล้วปลูกผักให้เลื้อยขึ้นไปคลุม ออกลูกมาก็จะห้อยโตงเตงหลายๆชนิด หลังจากล้อมรั้วแพะเสร็จ จะท.ท.ท.(ทำทันที) ส่วนโดมเจ้าตำหรับ ต้องรอให้เจ้าของต้นคิดมาแนะนำอีกที 

หลังจากทุกอย่างลงตัว
ว่างเมื่อไหร่ก็จะชวนญาติเฮฮาศาสตร์มาปะทะกับสายญาติเฟสบุกต์
เอาให้ป่าแตกในปลายเดือนนี้หรือเดือนหน้าดีไหม
ระยะดังกล่าวนี้มีวันหยุดช่วงไหนบ้างละแห้ว..หาข้อมูลด่วน

รายการพัฒนาสังคมไทย ฉบับโมเดลมหาชีวาลัยอีสานจะได้เดินหน้าเสียที ผมคิดอย่างนี้ครับ จะชวนคนที่มีวิชาความรู้ออกจากเมืองกรุง มาย่องเบาเป็นครั้งคราว หรือจะมองหาที่พักผ่อนให้ชีวิตในบั้นปลาย เรื่องนี้คิดสั้นๆบ่ได้ ถ้าคิดไกลๆยาวๆเพื่อวางรากฐานการพัฒนาประเทศและสังคม

การกระจายคนที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์รอบด้านสู่ชนบทสำคัญที่สุด
คนที่ว่านี้ก็คือคนน่ารักๆที่ผมรู้จักในFB.นี่แหละ แต่ละท่านธรรมดาที่ไหนละ ทักษะและความสามารถอัดแน่นเต็มพุง แต่ไม่มีโอกาสได้ออกมาแสดงฝีมือให้กระโดดโลดเต้นสู่สังคมภายนอก ประเทศไทยย่ำแย่ตรงที่ไม่มีนโยบายให้คนเก่งคนดีได้แสดงฝีมือนี่แหละ เอาคนที่มากความสามารถมาคุมกำเนิดพลังวิชาความรู้ไว้ในองค์กรและสถาบันที่แห้งแล้ง ปล่อยให้เดินไปเดินมารับ5,000 ตอนนี้ล่อใจไว้กับการขึ้นอัตราเงินเดือน เอาเงินเป็นเยื่อล่อให้คงอยู่กับสภาพเดิมๆ

ผมจึงชักชวนท่านผู้มีดวงตาเห็นธรรมที่อยากจะช่วยกันทำอะไรใหม่ๆ ออกมาสร้างหมู่บ้านโลกเป็นตัวอย่างดีไหม ทำให้ดู อยู่ให้เห็น ว่ามันมีเหตุและผลการดำเนินชีวิตมีความหมายได้ ช่วยผดุงสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ สร้างสุขภาวะที่สมดุลได้ เอื้อต่อตนเองและสังคมรอบข้างได
แสดงให้เห็นวิธีทำมาหากินที่ดีเชิงประจักษ์ 

คนเราอยู่ที่ไหน  พื้นที่ตรงนั้นควรจะเจริญด้านกายภาพและจิตใจ สภาพรอบตัวรอบด้านงอกงามไม่เสื่อมโทรม ธรรมชาติไดรับการดูแลให้ฟื้นฟูขึ้นตามลำดับ รู้วิธีที่จะใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ การงานอาชีพประยุกต์ได้ ถ้าเป็นชุดความรู้ที่สมบูรณ์ เทคโนโลยีที่เหมาะสม ระบบการการเกษตรและอุตสาหกรรมที่คำนึงถึงชีวิตมนุษย์มากกว่าผลกำไรอย่างเดียว วัฒนธรรม จารีตประเพณี วิถีไทใช่ว่าจะเป็นของห่วยแตกที่ไหนเล่า สิ่งที่รับเข้ามาต่างหากที่กำลังสับขาหลอกให้คนไทยตายใจ สุดท้ายก็รับกรรมกันทั่วหน้า ด้วยไม่รู้ว่าจะนำพาประเทศชาติก้าวเดินไปในทิศทางใด
  • จะมอบชะตาชีวิตไว้ระบบการเมืองที่กะล่อนง่อนแง่น..ก็ไม่ว่ากัน
  • แต่ถ้าอยากจะหาคนร่วมคิดร่วมทำสิ่งดีๆใหม่ๆก็มาเช็คแฮนด์กัน  
  • อยากจะมีชีวิตและสังคมใหม่ก็ต้องสร้างขึ้นมา 
  • เรื่องพวกนี้..ปั่นแปะเอาได้ที่ไหนเล่า
  • หลังจากสร้างรังแบบ..นกน้อยแต่พอตัวเรียบร้อยแล้ว
  • เราก็มองหาจุดพอดีของการสร้างหมู่บ้านตามที่เราต้องการ 
  • เราเลือกได้นี่ครับ จะเอาหรือไม่เอาอะไร 

ลูกหลานเราก็จะมีคร็อสเรียนรู้ระดับต่างๆให้ช่วงปิดภาคเรียน
แม่บ้านแม่เรือน เรียนการฝีมือ การแปรรูป การผลิต การตลาด ตามสไตล์ของเรา
พ่อบ้านทำงานธุรกิจ การค้า การเกษตรอุตสาหกรรม ฯลฯ
โธ่ เดี๋ยวนี้ในป่านะ ยังมีเทคโนโลยีเชื่อมได้ทั่วโลก 
ไม่งั้นผมจ๊ะจ๋าให้ท่านทั้งหลายอ่านกันได้รึ 
อย่าไปงมโข่งอยู่กับสังคมเน่าๆในเมืองต่อไปอีกเลยยยย..

เรื่องนี้ตัดสินใจง่ายๆได้ที่ไหนละ นอกจากจะมานั่งมองตากัน คุยกันก่อน ต้องจับมือดูลายมือ ดูตำรา ดูลายแทงชีวิต ชวนทำอาหารที่อร่อยๆสนุกๆ ทดลองปลูกผักเด็ดผัก เดินชมคุณค่าของธรรมชาติ ซ่อมแซมความรู้สึกนึกคิดให้กระจ่าง
บางทีคนเราจะพบคำตอบให้กับตัวเองด้วยวิธีนี้ก็ได้นะ
“เธอจะวางตัวและหัวใจไว้ตรงไหนในยามที่สังคมผิดปกติเช่นนี้” 
ไม่รักไม่ชวนหรอกนะคนสวย  
อ้าว ! คนไม่สวยละ.>.> คนเรานี่..ไม่มีคนไหนไม่สวยหรอก สวยได้ทั้งข้างในข้างนอก ไม่ควรเอาความฉาบฉวยมาเป็นสรณะ เอาความดีความงามของชีวิตเป็นหลักการ ส่วนหน้าหวานอมเปี้ยวนั่นเป็นของแถมไม่ใช่สิ่งยั่งยืน คนเรานิสัยดีเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราจะรู้ได้อย่างไรว่านิสัยดี อ๋อเรื่องนี้ต้องหาคนบอก จะมาทึกทักเอาเองไม่ได้หรอกนะเธอ

จะทำยังไงละถึงจะได้คำตอบ

จุดนี้แหละสำคัญ สวนป่าจึงทำแบบเชิญคุณญาติทั้งหลายได้มาใช้เวลาร่วมกัน สังสรรค์กันอย่างเครือญาติ เรียนรู้ที่จะเอาใจเขาใส่ใจเรา ต่อยอดความรักความเข้าใจให้ค่อยๆแตกหน่ออ่อน ความปกติสุขก็จะงอกงามในจิตใจของเรา
เอาความร้อนรน ความจู้จี้ ความพิลึกกึกกือมาหมัก 
ของไม่ดีทั้งหลายเอามาทำเป็นปุ๋ยให้หมด 
เราก็จะได้ผักสดๆกรอบอร่อยรับประทาน

ช่วงสาย มีแขกจากหาดใหญ่แวะมาคุยด้วย รศ.ปริญญา อรุณวิสุทธิ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการและพัฒนาบุคลากร มหาวิทยาลัยสงขลานัครินทร์ อาจารย์เล่าว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ มีโครงการที่จะตั้งโรงเรียนประจำที่จังหวัดพัทลุง ผมคิดถึงเจ้าหนูพฤษา ทราบว่ามีโรงเรียนในเครือทำนองนี้อยู่ที่หาดใหญ่ด้วยแล้ว

เจ้าตาหวานกับครูสุจะเดินทางกลับเมือง2แคว ได้คุยกันจนยังไม่อิ่ม 2สาวมาทำอาหารมังสะวิรัติให้รับประทาน3มื้อ แม่หวีพาไปตัดกล้วย เก็บมะละกอ เก็บผัก เก็บเสาวรส เก็บน้ำเต้า กลับไปพิษณุโลก 2สาวฟังเรื่องหมู่บ้านโลกแล้วกะดีกะด้ากันใหญ่ อยากจะมาขออยู่ด้วย เกษียณแล้วจะมาอาสาพ่อ จะนวดให้พ่อ ทำกับข้าวให้ชิม ใช้ทำอะไรได้หมด จะขอจองบ้านจองโน่นจองนี่
ทำยังกับพ่อจะอยู่ด้วยเป็นร้อยปีอย่างนั้นแหละ
บอกว่า..ใจเย็นๆ รอจับฉลากก่อนสิหนู.>..
อิ อิ..


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น