วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สุดท้ายเมนูหูฉลามก็ไม่ต่างจากกินตีนปลาตีน

ภาพจาก www.wildaid.org
เรื่อง เสมอชน ธนพัธ
ช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ฉลามบางชนิดมีจำนวนลดลง 99 เปอร์เซ็นต์
1 ใน 3 ชนิดพันธุ์ฉลามกำลังจะสูญพันธุ์
ทุกๆ ปีมีฉลามถูกฆ่า 100 ล้านตัว
ในจำนวนนี้ 73 ล้านตัวถูกนำครีบมาทำซุปหูฉลาม
ฉลามที่ถูกจับ จะถูกตัดครีบทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากนั้นร่างของมันก็จะถูกโยนทิ้งลงน้ำ ปล่อยให้จมและเลือดไหลออกจนตาย ซึ่งครีบที่ได้ คิดเป็น 2 เปอร์เซ็นต์ของตัวฉลามทั้งหมด
อย่างไรก็ดี ราคาครีบฉลามปอนด์ละ 880 เหรียญสหรัฐ นับเป็นเมนูอาหารทะเลที่มีราคาแพงที่สุดในโลก
ซุปหูฉลามชามหนึ่ง บางครั้งมีราคาสูงถึง 100 เหรียญสหรัฐ
การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน ทำให้ความต้องการบริโภคเมนูหูฉลามเพิ่มขึ้น
ในฮ่องกง จากการสำรวจพบว่า คนฮ่องกง 89 เปอร์เซ็นต์ได้กินซุปหูฉลามตามงานแต่งงาน
มี 145 ประเทศทั่วโลกต่อต้านการค้าครีบฉลาม
ส่วนประเทศยักษ์ใหญ่ที่ยังคงล่าฉลาม ได้แก่ สเปน สิงคโปร์ ไต้หวัน อินโดนีเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงพี่เบิ้มอย่างสหรัฐอเมริกา
ครีบฉลาม 50 – 80 เปอร์เซ็นต์ ถูกส่งขายผ่านฮ่องกง
85 เปอร์เซ็นต์ของการค้าครีบฉลามในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งที่นี่มีภัตราคารที่เสิร์ฟเมนูหูฉลามกว่า 360 ร้าน
กว่าที่ฉลามจะโตจนถึงวัยผสมพันธุ์ ต้องใช้เวลา 10 – 15 ปี ขณะที่แต่ละครั้งสามารถออกลูกเพียงไม่กี่ตัว เมื่อต้องเผชิญกับการถูกล่าอย่างหนัก จำนวนฉลามในท้องทะเลจึงลดลงอย่างรวดเร็ว
ฉลามเป็นสัตว์ผู้ล่าที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร การลดหายไปของพวกมันย่อมมีผลกระทบโดยตรงกับระบบนิเวศท้องทะเล
ความเชื่อเดิมที่ว่าครีบฉลามมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แท้จริงแล้วมีคุณค่าทางโภชนาการไม่ต่างจากตีน (ครีบ) ของปลาตีน แต่ซ้ำร้ายเคยมีการตรวจพบสารปรอทปนเปื้อนในครีบฉลามสูงเป็น 42 เท่าของค่ามาตรฐานความปลอดภัย
หมายเหตุ ข้อมูลส่วนใหญ่เรียบเรียงจาก www.wildaid.org ส่วนคุณค่าทางโภชนาการของหูฉลามที่ไม่ต่างจากตีนของปลาตีนนั้น อ้างอิงจากหนังสือ "เสริมอาหารไม่ต้อง เสริมสมองดีกว่า" โดย รศ.ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ
ที่มา : http://www.greenworld.or.th/greenworld/foreign/1624

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น