ในแง่ทางเรขาคณิต ปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวศุกร์ก็เปรียบได้กับสุริยุปราคา แต่คราวนี้ดาวศุกร์มาอยู่แทนที่ดวงอาทิตย์และมีขนาดเล็กมาก ทำให้เกิดเงาดวงจันทร์ขนาดกว้างใหญ่พาดลงมาบนผิวโลก ประเทศที่อยู่ในแนวที่เงาดวงจันทร์ผ่านจะสามารถสังเกตเห็นดวงจันทร์บดบังดาวศุกร์ได้ แต่ต้องอยู่ในบริเวณที่เป็นกลางคืนด้วยจึงจะเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า
ปรากฏการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในวันที่ดวงจันทร์มีดิถีเป็นข้างขึ้นอ่อน ๆ สว่างเป็นเสี้ยวคิดเป็น 7% วันนี้ดาวศุกร์มีขนาดปรากฏเพียง 12.1 พิลิปดา (เล็กกว่าดวงจันทร์ 160 เท่า) มีส่วนสว่าง 85% ดวงจันทร์และดาวศุกร์อยู่สูงจากขอบฟ้าทิศตะวันตกไม่เกิน 30 องศา จึงต้องหาสถานที่ที่ท้องฟ้าด้านนี้เปิดโล่ง ส่วนใหญ่ของประเทศไทยจะเห็นด้านมืดของดวงจันทร์เริ่มบังดาวศุกร์ก่อนดวงอาทิตย์จะตกลับขอบฟ้า การที่ท้องฟ้ายังสว่างอยู่จึงต้องอาศัยกล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ในการสังเกต มีพื้นที่บางส่วนเท่านั้น คือทางตะวันออกของอีสานใต้และบริเวณภาคใต้ตอนล่างที่ดวงจันทร์เริ่มบังดาวศุกร์ขณะดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าไปแล้วหรือกำลังตกลับขอบฟ้า
สำหรับการสังเกตปรากฏการณ์ครั้งนี้ในประเทศไทย หลังจากดาวศุกร์หายไปเบื้องหลังด้านมืดของดวงจันทร์แล้วราว 1 ชั่วโมงเศษ ดาวศุกร์จะกลับมาปรากฏอีกครั้งที่ขอบด้านสว่างซึ่งอยู่ด้านล่างของดวงจันทร์เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า ขณะนั้นท้องฟ้ามืดลงแล้ว แต่ยังมีแสงสนธยาเหลืออยู่บ้าง ขณะเดียวกัน ดวงจันทร์และดาวศุกร์จะเคลื่อนลงต่ำใกล้ขอบฟ้ามากขึ้น การสังเกตดวงจันทร์บังดาวศุกร์ในวันนี้จึงจำเป็นต้องหาสถานที่ซึ่งท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกไม่มีสิ่งใดกีดขวาง
การที่ดาวศุกร์เป็นวัตถุท้องฟ้าในระบบสุริยะ มันอยู่ใกล้เราจนสามารถมองเห็นเป็นดวงกลมได้ด้วยกล้องโทรทรรศน์ ไม่ใช่จุดแสงแบบดาวฤกษ์ที่อยู่ไกลมาก ทำให้ดวงจันทร์ใช้เวลาประมาณ 24 วินาที นับตั้งแต่เริ่มแตะขอบด้านหนึ่งจนไปถึงขอบอีกด้านหนึ่งของดาวศุกร์ ขณะเริ่มบังอาจสังเกตได้ยากเพราะท้องฟ้าสว่าง ต้องใช้กล้องโทรทรรศน์หรือกล้องสองตาเข้าช่วย ขณะสิ้นสุดการบัง ดาวศุกร์จะค่อย ๆ สว่างขึ้นมาที่ขอบด้านล่างของดวงจันทร์ และสว่างเต็มที่เมื่อมันโผล่พ้นดวงจันทร์ออกมาทั้งดวง
เส้นทางการเคลื่อนที่ของดาวศุกร์ขณะผ่านเบื้องหลังดวงจันทร์สำหรับบางจังหวัด ดาวศุกร์หายลับไปที่ด้านมืดของดวงจันทร์ หลังจากนั้นมันจะกลับมาปรากฏอีกครั้งที่ด้านสว่างดวงจันทร์บังดาวศุกร์ : 16 พฤษภาคม 2553 | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|
สถานที่ | เริ่มบัง | สิ้นสุด | ||||
เวลา | มุมเงยของ
ดาวศุกร์ | มุมเงยของ
ดวงอาทิตย์ | เวลา | มุมเงยของ
ดาวศุกร์ | มุมเงยของ
ดวงอาทิตย์ | |
กรุงเทพฯ | 18:18 | 34° | 4° | 19:28 | 18° | -12° |
ขอนแก่น | 18:19 | 32° | 3° | 19:24 | 18° | -12° |
เชียงใหม่ | 18:12 | 38° | 8° | 19:20 | 23° | -7° |
นครราชสีมา | 18:19 | 33° | 3° | 19:26 | 17° | -13° |
ประจวบฯ | 18:19 | 33° | 4° | 19:30 | 17° | -13° |
ภูเก็ต | 18:23 | 32° | 3° | 19:32 | 17° | -13° |
ระยอง | 18:20 | 32° | 2° | 19:29 | 17° | -14° |
สงขลา | 18:25 | 30° | 0° | 19:33 | 21° | -19° |
สุโขทัย | 18:14 | 36° | 6° | 19:48 | 21° | -19° |
อุบลราชธานี | 18:22 | 34° | -1° | 19:26 | 15° | -15° |
หมายเหตุ: คำนวณสำหรับอำเภอเมืองของแต่ละจังหวัด จังหวัดอื่น ๆ สามารถคาดคะเนเวลาได้จากจังหวัดใกล้เคียงที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน
ภาพบนเป็นแผนที่โลกแสดงบริเวณที่เห็นดวงจันทร์บังดาวศุกร์ ซึ่งก็คือพื้นที่ภายในเส้นสีแดง เส้นแบ่งกลางวัน-กลางคืนของโลกแสดง ณ เวลา 17:16 น. ซึ่งเป็นเวลากึ่งกลางของปรากฏการณ์ จากภาพนี้ พอจะสังเกตได้ว่าพื้นที่ที่เห็นได้คือตอนเหนือของทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ บางส่วนทางตอนล่างของจีน และเกือบทั้งหมดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ส่วนใหญ่เกิดในเวลากลางวัน ประเทศไทยอยู่ใกล้เขตกลางคืน จึงจะเห็นได้ในช่วงก่อนดวงอาทิตย์ตกถึงช่วงพลบค่ำ
ภาพล่างซ้ายแสดงเวลาที่ดวงจันทร์เริ่มบังดาวศุกร์ เส้นประสีฟ้าในภาพนี้แสดงเขตที่เห็นดวงจันทร์เริ่มบังดาวศุกร์ขณะดวงอาทิตย์ตก พื้นที่ทางซ้ายมือของเส้นประคือส่วนที่เกิดปรากฏการณ์ก่อนดวงอาทิตย์ตก ขวามือของเส้นประคือพื้นที่ที่เกิดปรากฏการณ์หลังดวงอาทิตย์ตก (แต่ท้องฟ้ายังสว่างอยู่ด้วยแสงสนธยา)
ภาพล่างขวาแสดงเวลาสิ้นสุดการบังซึ่งดาวศุกร์จะกลับมาปรากฏที่ขอบด้านสว่างของดวงจันทร์ จากแผนภาพนี้ หากเราต้องทราบเวลาการเกิดปรากฏการณ์ที่ตำแหน่งใด ๆ จะสามารถคาดคะเนเวลาด้วยสายตาได้แม่นยำถึงระดับนาที เช่น ภูเก็ต เริ่มบังเวลาประมาณ 18:23 น. สิ้นสุดเวลา 19:31 - 19:32 น. ถ้าทราบพิกัดของจุดที่สังเกตการณ์ (ละติจูดและลองจิจูด) จะได้เวลาที่แม่นยำกว่านั้น
ดวงจันทร์บังดาวเคราะห์ครั้งถัดไปที่เห็นได้ในประเทศไทย คือ ดวงจันทร์บังดาวพฤหัสบดีคืนวันที่ 11/12 สิงหาคม 2555 (เฉพาะภาคใต้ตอนล่าง ขณะดวงจันทร์กำลังขึ้นเหนือขอบฟ้า) และดวงจันทร์บังดาวอังคารในเวลาหัวค่ำของวันที่ 17 เมษายน 2564 (ทั่วประเทศ) สำหรับดาวศุกร์ต้องรอถึงวันที่ 24 มีนาคม 2566 ซึ่งจะเกิดในช่วงพลบค่ำเช่นเดียวกับครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม มีปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวศุกร์ในวันที่ 30 มิถุนายน 2554, 26 กุมภาพันธ์ 2557 และ 27 พฤษภาคม 2565 ซึ่งประเทศไทยอยู่ในเขตที่เห็นได้ แต่เกิดขึ้นในเวลากลางวัน หากท้องฟ้าโปร่ง ทางทฤษฎีมีโอกาสที่จะสังเกตได้ด้วยกล้องโทรทรรศน์ดวงจันทร์บังดาวศุกร์ที่เห็นได้ในประเทศไทย พ.ศ. 2551-2580 วันที่ ภูมิภาคที่มองเห็น หมายเหตุ 16 พฤษภาคม 2553 ทั่วประเทศ - 30 มิถุนายน 2554 ทั่วประเทศ เกิดในเวลากลางวัน 26 กุมภาพันธ์ 2557 เกือบทั่วประเทศ ยกเว้นภาคใต้ตอนล่าง เกิดในเวลากลางวัน 27 พฤษภาคม 2565 เกือบทั่วประเทศ ยกเว้นภาคเหนือตอนบน เกิดในเวลากลางวัน 24 มีนาคม 2566 ทั่วประเทศ - 14 กันยายน 2569 ทั่วประเทศ - 17 กันยายน 2579 ภาคเหนือ อีสาน และภาคกลางตอนบน เกิดในเวลากลางวัน ดูเพิ่ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น