"ผมไม่ลงเครดิตให้ ผอ. หรอกครับ ไม่เห็นช่วยอะไรเลย" น้องเปรม ยืนยันความคิด
"เฮ้ย จะดีเหรอ ไม่ดีมั้ง ลงให้เค้าเหอะ"พี่วิทยากรบอก
"ผมลงให้อาจารย์แม่ของผมคนเดียวพอแล้ว เพราะอาจารย์แม่ดีกับพวกเราตลอด"
"พวกเรา" ในที่นี้ นอกจาก "เปรม" เด็กหนุ่มหน้ากลมคมคาย ยิ้มง่าย คนนี้แล้ว ยังหมายถึงพลพรรคร่วมแก๊งค์ของพวกมัน
คือ เจน ตั๋ง ต๊ะ สาม โด่งและเค อีกหกคน ที่เข้าร่วมสมัครมาอบรมหนังสั้นกับทีวีไทย
พวกมันทั้งเจ็ดค้นหาข้อมูลจากเวบไซต์ของทีวีไทย จนพบว่ามีการรับสมัครน้อง ๆ เข้าอบรมการทำหนังสั้น
ในโครงการ สร้างฝันให้น้อง ได้ลองทำหนัง โครงการพิเศษเพื่อสาธารณะของรายการฮอทช็อตฟิล์ม
แล้วพวกมันก็โทรมาสมัคร จนกระทั่งได้เข้าอบรมในที่สุด
.......
"พวกเราอยากอบรมจริง ๆ ครับ" หนึ่งในน้องจากกาฬสินธิ์ พยายามขอความเห็นใจ
ในวันแรกของการอบรมที่มุกดาหาร น้อง ๆ ทยอยกันมาทีละกลุ่ม
แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นตั้งแต่เช้า
น้องกลุ่มหนึ่งมาจากกาฬสินธุ์ เพื่อเข้าร่วมอบรม แต่ว่าทำผิดกติกาของการสมัครที่ว่าน้องที่เข้าอบรมจะต้องไม่เคยเข้าอบรมการทำหนังสั้นมาก่อน
น้องในกลุ่มนี้ เกือบจะทั้งหมดเคยเข้าอบรมมาแล้วในค่ายอื่น แต่ก็ยังลักไก่เดินทางมา
น้องกลุ่มนี้ ผมรู้จักทุกคน ยกเว้นน้องคนหนึ่งที่มาใหม่จริง ๆ ที่รู้จักก็เพราะว่าผมเองอบรมมากับมือ
ผมกับ "แวว" ผู้ประสานงานของรายการฮอทช็อตฟิล์มปรึกษากันว่าจะเอายังไง
น้องกลุ่มนี้มันก็มาแล้ว จากกาฬสินธุ์โน่น เดินทางมาไม่ต่ำกว่าชั่วโมงครึ่ง จะไล่ให้มันกลับเหรอ
แต่พวกนี้มันก็ทำผิดกติกา ทั้งที่ครูที่พามา ก็รู้ว่ากติกาอะไรเป็นอะไร
ทางผู้ประสานงานก็ย้ำนักย้ำหนาเรื่องนี้ แต่ก็ยังลักไก่กันมา
คงคิดว่าหอบผ้าหอบผ่อนมาแล้ว พี่ๆ คงไม่ใจร้ายใส้ระกำสิท่า
เราก็ไม่ใจไม้ไส้ระกำจริงแหละ แต่ก็คุยกันในหมู่คนจัด ว่าต้องสอนให้น้องแยกแยะบ้าง
ว่ามันทำให้เสียกระบวนการอบรม เพราะหลักสูตรสำหรับมือใหม่ พวกมือเก่า รู้ทางกันแล้ว จะทำกระบวนการอบรมเสียมั้ย
ไหนพวกที่เขาอยากเรียน ต้องมาเสียสิทธิให้กลุ่มนี้อีก แล้วความชอบธรรมการรับสมัครจะอยู่ตรงไหน
คิดได้แล้วดังนั้น..เลยเรียกมาคุย ว่าอะไรเป็นอะไร พี่ ๆ เห็นใจน้อง ๆ นะ แต่ขอให้รู้ว่าเรื่องที่ทำมา มันไม่ถูกต้อง
พูดคุยต่อหน้าอาจารย์ที่พามา มองหน้าอาจารย์ ดูเหมือนอาจารย์สมัยนี้ ก็เด็กเหลือเกิน เรื่องความไม่ถูกไม่ต้อง แยกแยะไม่เป็นพอกัน
อดคิดในใจไม่ได้ว่า น้องๆ ที่มาตกชะตากรรมครั้งนี้ อาจารย์มีส่วนหนุนหลังในการกระทำผิดมากน้อยแค่ไหนกันนะ
สรุปแล้ว เราก็ให้โอกาสในการเข้าอบรม เพราะเห็นใจว่าอุตส่าห์เดินทางมาแล้ว
แต่ภาคทัณฑ์ไว้ว่า ถ้าหากมีการแสดงออกที่ทำให้กระบวนการติดขัด จะให้กลับทั้งกลุ่มแน่นอน
พูดจบ เราก็บอกให้น้อง ๆ ลองปรึกษากัน ว่ายอมรับเงื่อนไขตามนี้มั้ย ถ้าได้ ก็มาอบรมด้วยกัน
ปรากฎว่า น้องกลุ่มนี้หายไปเลย ไม่กลับมาอีกเลย แถมไม่ร่ำลาซักคำ...
น้องกลุ่มเดียวกันนี้ ในการอบรมคราวที่แล้ว ทำหนังสั้นโดยผู้ใหญ่แทรกแซงกันอีรุงตุงนัง
ทำงานเองไม่ถึงครึ่ง ที่เหลืออาจารย์บงการชี้นิ้ว เอายังงั้นยังงี้
มิน่าเล่า พอกลับไปโรงเรียน ถึงทำเองไม่ได้ ต้องกลับมาเรียนใหม่
......
เปรมกับผองเพื่อนตั้งใจเรียนแต่ก็เล่นมุขหยอดใส่วิทยากรตลอดเวลา
พวกมันตั้งใจเรียนแบบแปลก ๆ เพราะเหมือนตั้งใจเรียนและเหมือนไม่ตั้งใจในขณะเดียวกัน
บางทีพวกมันก็สุมหัวเล่นกันเอง ขำกันเอง ยอมรับว่าบางทีผมก็รำคาญพวกมันนะครับ
เพราะผมคุ้นกับเด็กที่ตั้งใจเรียนจริง ๆ มากกว่าเด็กที่เรียนไปเล่นไป
แต่เปรมและผองเพื่อนทั้งหกก็ร่ำเรียนวิชาทำหนังสั้นจนสัมฤทธิ์ผลจนได้
ทั้ง ๆ ที่ "ตั๋ง" เด็กหนุ่มร่างสูงเพรียวหัวสกินเฮด หนึ่งในทีมต้องลาค่ายไปซ้อมบาสเกตบอลทุกเย็น ทำให้เสียกำลังคนในทีมที่จะช่วยทำงานอย่างน้อยหนึ่งคน
แต่ทีมของเปรมก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และสามารถทำงานยาก ๆ ได้
โดยไม่ต้องมีอาจารย์มาคอยเป็นพี่เลี้ยง และคอยเป็นเงาติดตามการทำงานตลอดเวลา เหมือนกับเด็กเรียนอีกหลาย ๆ กลุ่ม ที่อาจารย์คอยช่วยเหลือมากบ้างน้อยบ้าง
แต่บางทีกลุ่มของเปรมมาอบรมสิบวัน บางทีอาจารย์อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหายจากห้องเรียนมาอบรม
ผมมารู้ทีหลังว่าน้องๆ กลุ่มนี้ อาจารย์ไม่ค่อยเอาใจใส่เท่าไร คงเป็นเพราะเรียนไม่เก่งและอาจจะสมาธิสั้นด้วย
........
แล้วหนังสั้นเรื่องแรกของเปรมและผองเพื่อน ในนามบริษัท "เรือบักฟิล์ม" ก็เสร็จสมบูรณ์
เรื่อง "เส้นทางโค้ง" หนังต่อต้านยาเสพติดของเยาวชนมุกดาหาร ได้ฉายโชว์หนังกางแปลงริมน้ำโขง มีชาวบ้านมาชมอย่างเนืองแน่น เสียงปรบมือเกรียวกราว เมื่อหนังจบลงพร้อมเครดิตท้ายเรื่องยาวเหยียด
แน่นอนว่าไม่มีชื่อของผู้อำนวยการโรงเรียน ในลิสท์รายชื่อผู้ที่ต้องขอบคุณ
เป็นการยืนยันจุดยืนของเปรมกับพวก จวบจนวินาทีสุดท้าย
แต่ในรายชื่อขอบคุณ กลับปรากฎชื่อของอาจารย์คนหนึ่ง ที่พวกเขาเรียกง่าย ๆ ว่า "อาจารย์แม่"
ผมไม่รู้จริง ๆ ว่า"อาจารย์แม่" คนนี้สำคัญแค่ไหน แต่คิดว่าโดยสถานะคงเป็นยิ่งกว่าอาจารย์ผู้รับจ้างสอน
เพราะเปรมกับผองเพื่อนเรียก "แม่" ต่อท้ายด้วย
.......
แล้ววันลาจากของพวกเราก็มาถึง
เปรมกับตั๋งมายืนส่งพวกเราหน้าโรงแรม ตั้งแต่เช้าตรู่
ไม่ปรากฎท่าทางซุกซน หยอกล้อ เล่นมุขแพรวพราว
เปรมกับตั๋งกลายเป็นพูดน้อยและดูมีสัมมาคารวะผิดปกติ
มันสองคนมายืนส่งพวกเราและทักทายอยู่นาน ก่อนที่จะลาจากไป
เรื่องของเปรมทำให้ผมมาคิดย้อนหลังมากมาย
เปรม เจน ตั๋ง ต๊ะ โด่ง สามและเค เป็นลูกศิษย์ที่อาจารย์ไม่รัก ไม่เชียร์ ไม่ส่งเสริมให้ก้าวหน้า
น้อง ๆ ที่กาฬสินธุ์ เป็นเด็กเรียนเก่ง ที่อาจารย์ประเคนโอกาสให้ ครั้งแล้วครั้งเล่า
เปรมและผองเพื่อนต้องหาลู่ทางเอาเอง แทบทุกเรื่อง เช่น ค้นหาข่าวอบรมและดิ้นรนสมัครเอง
น้องเด็กเรียนที่กาฬสินธุ์ ใช้โอกาสเพื่อการแข่งขัน
แต่เปรมและผองเพื่อนขอเพียงโอกาสได้พิสูจน์ตัวตน
ในโลกใบนี้ เปรมและผองเพื่อนอาจไม่มีคุณสมบัติดีพอ ที่ผู้ใหญ่จะให้ความสนใจ
ยังมีคนแบบเปรมและผองเพื่อนอยู่อีกมากมายในประเทศไทย
พวกมันอาจจะสุมหัวกันอยู่ท้ายห้องเรียน คุยฟุ้ง เล่นมุข กันไปเรื่อยเปื่อย
แต่พวกมันก็มีความฝัน ที่รอเวลาพิสูจน์ และเมื่อได้โอกาสพิสูจน์ พวกมันจะทำสุดชีวิตของมันเลย
ชอบมากครับพี่เล็ก ... อ่านแล้วอยากเข้าอบรมหนังสั้นบ้าง ผมไม่เคยเข้าอบรมที่ไหนมาก่อนนะครับ แต่สงสัยอายุจะเกิน
ตอบลบหลังจากอบรมหนังสั้นแล้ว กลุ่มของเปรม ได้รับการยอมรับจากโรงเรียน
ตอบลบให้เป็นตัวแทนไปแข่งทักษะทางวิชาการทำหนังสั้น ได้รางวัลชนะเลิศกลับมาค่ะ
:D ดีใจนำ เด้อ พี่เปรม เเละพี่ๆ
ตอบลบสุดท้ายก็เจอ จนได้น้อเรา !!
ตอบลบ^ ^ ~
ตอบลบเรือบักขอบคุณครับ
สู้เว้ยย!
คิดถึง10วันจังคับ k เรือบักฟิล์ม
ตอบลบ